บวท.เผยปี 60 เที่ยวบินชะลอตัว เติบโตเพียง 5% ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยมี 9.9 แสนเที่ยวบิน เหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลก ทัวร์ศูนย์เหรียญ และ SLOTเต็ม ขณะที่ปี 61 คาดเติบโต 7% ทะลุ 1 ล้านเที่ยวบินได้ตามเป้าตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ยอมรับเที่ยวบินดีเลย์สุวรรณภูมิยังเกินค่ามาตรฐาน ขณะที่ MOU ร่วม ทย.ทำแผนปฏิบัติงานร่วมเซฟตี้สนามบิน
นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ในปี 2560 มีปริมาณเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศไทยประมาณ 9.9 แสนเที่ยวบิน/ปี ซึ่งเติบโตจากปีก่อน 5% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 9% สาเหตุที่มีการชะลอตัวเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ และตารางการบิน หรือ Slot ที่จำกัด ส่วนปี 2561 คาดว่าจะมีเที่ยวบินเติบโต 7% ภาพรวมจะเกินกว่า 1 ล้านเที่ยวบินเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ขณะที่สายการบินปรับขนาดเครื่องบินใหญ่ขึ้นเพื่อแก้ปัญหา Slot เต็ม
ขณะนี้ บวท.ได้ศึกษาโครงการเพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน ซึ่งเป็นการพัฒนาขยายทั้งส่วนภาคพื้นและห้วงอากาศของสนามบินกว่า 30 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับเที่ยวบินในอีก 20 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 2-3 ล้านเที่ยวบิน ซึ่งจะสรุปแผนในกลางปี 2561 และนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ส่วนปัญหาเที่ยวบินล่าช้านั้น ตามมาตรฐานโลกจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 20% จากปริมาณเที่ยวบินทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันยังมีล่าช้าเกินมาตรฐานที่สนามบินสุวรรณภูมิ สาเหตุมาจากทั้งสภาพอากาศและการปรับปรุงรันเวย์ ส่วนเชียงใหม่และภูเก็ตเริ่มลดลงไม่เกินมาตรฐาน ทั้งนี้ บวท.ได้ประสานสายการบิน 130 สาย และผู้ให้บริการสนามบินในการวางแผนงานล่วงหน้า เพื่อให้สายการบินได้กรณีต้องบินวนรวมถึงการดูแลผู้โดยสาร
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และนางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือการปฏิบัติงานบริเวณสนามบินในความรับผิดชอบของ ทย. เพื่อกำหนดขอบเขตความร่วมมือและความเข้าใจในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้ดูแลสนามบิน ผู้จัดจราจรทางอากาศ สายการบิน ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด ตามกฎหมายระเบียบและมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และเป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
นางสาริณีกล่าวว่า ในการบินจะมีส่วนเกี่ยวข้อง คือ ภาคพื้น, ภาคอากาศ และผู้บิน ซึ่งสนามบินจะต้องมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยหลายอย่าง โดย ICAO ได้วิจัยเห็นว่าจะมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นได้หากไม่มีการจัดการร่วมกันของส่วนที่เกี่ยวข้องและปรับปรุงมาตรฐานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยมีกว่า 10 ข้อ เช่น รันเวย์เซฟตี้ นั้นจะมีทั้งเรื่องโครงสร้างของรันเวย์ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรันเวย์ รวมถึงอาจจะมีสัตว์เลี้ยงเข้าไปในรันเวย์ได้ ทุกอย่างต้องทำแผนร่วมกันเพื่อให้การใช้รันเวย์และการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเวลาเกิดเหตุจะทำอย่างไร เป็นต้น
“เป้าหมายจะทำรันเวย์เซฟตี้ทุกสนามบิน โดยนำร่องที่กระบี่และอุบลราชธานีก่อนเพราะมีปริมาณจราจรสูงอาจมีความเสี่ยงกว่า ต่อไปจะขยายไปที่สนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสนามบินสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบางกอกแอร์เวย์ส นอกจากนี้ สนามบินจะมี Airport Security Plan ตามโครงการด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน (USAP) ของ ICAO อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ICAO สุ่มตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองไปแล้วและจะกลับมาตรวจซ้ำได้อีก