xs
xsm
sm
md
lg

“แมงป่อง” ดันเครื่องสำอางเลี้ยงชีพ ควบร้าน 3 แบรนด์ชูไฮบริด-รุก ตปท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “ณลันรัตน์ นันท์นนส์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MPG ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแมงป่อง กิซแมน และสตาร์ดัสท์ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้จะอยู่ภายใต้กลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจของบริษัทประสบความสำเร็จและสามารถลดต้นทุนในการบริหารงานได้ดีใน 3 โมเดล คือ 1. การปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจออกมาในโมเดลไฮบริด คือ รวมร้านค้าในเครืออย่างแมงป่อง กิซแมน และสตาร์ดัสท์ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้มีสินค้าหลากหลาย

2. วางวางโมเดลธุรกิจเป็นแบบโอทูโอ หรือผสมผสานการทำตลาดออฟไลน์-ออนไลน์ไว้ด้วยกัน และ 3 การนำแบรนด์เครื่องสำอางคลาวด์ดี้ไปประกวดจนได้รับรางวัลจนเป็นที่ยอมรับ ส่งผลให้บริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อการทำตลาดกลุ่มสินค้าความงาม เนื่องจากเป็นธุรกิจมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 2 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเป็นธุรกิจที่ทำกำไรให้สูงถึง 65-70%
ณลันรัตน์ นันท์นนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MPG ผู้ดำเนินธุรกิจร้านแมงป่อง กิซแมน และสตาร์ดัสท์
สำหรับแผนการตลาดของแบรนด์เครื่องสำอางคลาวด์ดี้ นอกจากจะจำหน่ายภายในร้านสตาร์ดัสท์ ซึ่งเป็นร้านเครื่องสำอางของบริษัทแล้ว ยังจะมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายไปยังช่องทางออนไลน์ เน้นการจับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจมาร์เกตเพลซ และจะขยายช่องทางขายในออฟไลน์ไปใน 4 ช่องทางหลัก คือ 1. ห้างค้าปลีกและร้านค้าปลีก เช่น ร้านวัตสัน 2. ร้านค้าทั่วไป เช่น ยี่ปั๊ว และซาปั๊ว 3. ร้านขายส่ง และ 4. การจับมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ ในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมไปถึงประเทศจีน ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะเริ่มเข้าไปทำตลาดจริงจังได้

“หลังจากบริษัทฯ หันมาทำตลาดต่างประเทศจริงจังในปีหน้า คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 30% ส่วนอีก 70% เป็นรายได้ในประเทศ ซึ่งในส่วนของแบรนด์คลาวด์ดี้ ในปีหน้ามีแผนที่จะผลิตกลุ่มสินค้าสกินแคร์เข้าทำตลาดอีกด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า และครีมกันแดด เป็นต้น”

อย่างไรก็ดี หลังจากบริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องคาดว่าสิ้นปี 2561 บริษัทจะกลับมามีรายได้เติบโตอีกครั้ง หลังจากปี 2560 นี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตลดลงไปจากปี 2559 ประมาณ 10% จากรายได้รวมประมาณ 300 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจ และการปิดปรับปรุงศูนย์การค้าที่นำธุรกิจเข้าไปเปิดให้บริการ
กำลังโหลดความคิดเห็น