“พาณิชย์” จับมือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา เตรียมจ่ายเงินเข้าบัญชีโดยตรงรายละ 2,000 บาท จำนวน 5,363 ราย พร้อมเปิดแอปพลิเคชัน “จองรถเกี่ยว” ช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรรายย่อยที่มีปัญหาขาดแคลนรถเกี่ยว นำร่องที่อุบลราชธานี ก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่น เผย ปีนี้ส่งออกข้าวทำได้ตามเป้า 11 ล้านตัน แน่ หลัง 10 เดือนส่งออกแล้ว 8.97 ล้านตัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการแถลงข่าว “โครงการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บเกี่ยวและยกระดับคุณภาพข้าวเพื่อการส่งออกของเกษตรกร” วันที่ 16 ต.ค. ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจัดทำโครงการสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวคุณภาพดีที่สำคัญของประเทศ โดยสมาคมฯ ได้ให้เงินช่วยเหลือตรงกับเกษตรกรเป็นค่าใช้จ่ายค่าบริการรถเกี่ยวนวดข้าวในอัตราไร่ละ 200 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ หรือรายละไม่เกิน 2,000 บาท มีเกษตรกรได้รับความช่วยเหลือ 5,363 ราย พื้นที่เพาะปลูก 45,831.50 ไร่ ใน 12 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครราชสีมา มหาสารคาม บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และ ศรีสะเกษ รวมเงินช่วยเหลือ 9,172,300 บาท โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ของชาวนาแต่ละรายโดยตรง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดตัวแอปพลิเคชัน “จองรถเกี่ยว” เพื่อแก้ปัญหารถเกี่ยวข้าวมีไม่เพียงพอ โดยจะเริ่มนำร่องใช้ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพที่สำคัญของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ ในจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ อำเภอเดชอุดม วารินชำราบ เขื่องใน พิบูลมังสาหาร ม่วงสามสิบ น้ำขุ่น และ ตระการพืชผล โดยจะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 18 - 19 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป และจากนั้นจะมีการประเมินผล ก่อนขยายไปยังจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับกองทัพบก โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก วางแผนจัดเตรียมความพร้อมรถเกี่ยวข้าว 10 คัน ตามที่ได้รับมอบจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเมื่อปี 2559 โดยจะนำออกมาให้บริการเกษตรกรสำหรับการเกี่ยวข้าวฤดูการผลิตปี 2560/61 ด้วย
นางอภิรดี กล่าวว่า สำหรับการส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 11 ต.ค. 2560 ส่งออกได้แล้วปริมาณ 8.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25.28% มีมูลค่า 1.32 แสนล้านบาท เพิ่ม 17.41% หากคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯมีมูลค่า 3,891 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมั่นใจว่า จากแนวโน้มการส่งออกดังกล่าว จะทำให้การส่งออกข้าวในปีนี้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน เนื่องจากข้าวไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวที่นำมาใช้ เนื่องจากเห็นว่าชาวนาแต่ละรายมีความต้องการไม่เหมือนกันในแต่ละพื้นที่ ในปีนี้จึงทดลองจ่ายเงินให้โดยตรง โดยได้ร่วมมือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เป็นผู้คัดเลือกสมาชิกชาวนาที่จะเข้าโครงการดังกล่าว ส่วนการส่งออกข้าว สมาคมฯ เห็นว่า หากจากนี้ไปส่งออกได้เดือนละ 9 แสนตัน ทั้งปี ก็จะได้ประมาณ 10.8-10.9 ล้านตัน ใกล้เคียงกับเป้าหมาย ทางด้านราคาข้าว มั่นใจว่า จะดีขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาข้าวหอมมะลิปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 750 - 800 เหรียญสหรัฐฯ ข้าวขาวตันละ 375 เหรียญสหรัฐฯ และข้าวนึ่งตันละ 385 เหรียญสหรัฐฯ
นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า เดิมทีสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้เตรียมงบประมาณไว้ 20 ล้านบาท ในการช่วยเหลือชาวนาโดยตรง ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 1 แสนไร่ แต่จากการที่สมาคมชาวนาฯ ได้คัดเลือกสมาชิกโดยเน้นกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้มีชาวนาเข้าร่วมประมาณ 5,000 ราย พื้นที่ 5 หมื่นไร่ ที่จะได้รับการช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว