xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย.ปรับตัวดีขึ้น 2 เดือนติด แต่คนยังกังวลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังคนมีความมั่นใจเศรษฐกิจในอนาคตกำลังดีขึ้น แต่ยังมีความกังวลราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ฉุดกำลังซื้อไม่ให้ฟื้นตัว แนะรัฐอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ภูมิภาคให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการจ้างงานและเร่งการใช้จ่าย ประเมินไตรมาส 4 การบริโภคน่าจะดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คาดปีนี้จีดีพีน่าจะโตถึง 3.7-4.0%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. 2560 อยู่ที่ 75.0 เพิ่มจาก 74.5 ในเดือน ส.ค. 2560 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 50.5 ลดจาก 51.6 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 85.5 เพิ่มจาก 84.2 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 62.5 เพิ่มจาก 62.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานอยู่ที่ 69.8 เพิ่มจาก 69.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 92.7 เพิ่มจาก 91.5

สาเหตุที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวดีขึ้น การลงทุนของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันและเห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังฟื้นตัวไม่มาก เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาพืชผลเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และสับปะรดโรงงาน เป็นต้น ทำให้กำลังซื้อไม่คล่องตัว และรู้สึกว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น

“จากผลสำรวจพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันที่ลดลง 5 เดือนติดต่อกัน เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้าเกษตรที่เป็นรายได้หลักของเกษตรกรยังไม่ดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดไม่ดี ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดขายของไม่ได้ รัฐบาลต้องทำให้มีเงินหมุนเวียนลงไปยังส่วนภูมิภาคมากขึ้น เพื่อทดแทนราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ โดยต้องพยายามทำให้มีการจ้างงานเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ เพราะถ้าหากปล่อยไว้แบบนี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตไม่เด่น” นายธนวรรธน์กล่าว

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ศูนย์ฯ ประเมินว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 เพราะคนเริ่มมั่นใจเศรษฐกิจในอนาคตว่าจะดีขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 4 เช่นเดียวกัน โดยทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ในระดับ 3.7-4.0% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ที่ 3.6% และสอดคล้องกับที่คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มขึ้นมา โดยศูนย์ฯ จะประกาศตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งสัปดาห์หน้า

สำหรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจำนวน 11.37 ล้านคน คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณเดือนละ 3-4 พันล้านบาท และค่าโดยสารเดือนละ 1-2 พันล้านบาท ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการบริโภค และการจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับภาคการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยวที่เติบโต จะทำให้คนมั่นใจในการบริโภคเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น