xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” โต้ข้อกล่าวหาพิรุธระบายข้าว ยันทำตามหลักเกณฑ์ตรวจสอบได้ พร้อมย้ำไม่มีเกียร์ว่างเปิดประมูลข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ยันการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลอย่างถูกต้องชัดเจน ส่วนการนำข้าวไปใช้ผิดประเภทบริษัทต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ระบุไม่ได้เกียร์ว่างชะลอการประมูล เหตุต้องเตรียมการและกำหนดมาตรการควบคุมดูแล ย้ำการประมูลข้าว 3 ปีที่ผ่านมา ทำตามหลักเกณฑ์ โปร่งใส

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณี นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่ามีข้อพิรุธในการระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมว่า กรณีบริษัท วีออร์แกนนิก ที่เข้าประมูลซื้อข้าวไปทำปุ๋ย ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่บริษัทใช้ยื่นประมูล โดยคณะทำงานเปิดซองร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏว่ามีคุณสมบัติถูกต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 และเมื่อบริษัทได้รับมอบข้าวที่ซื้อไปแล้วจะต้องนำข้าวที่ซื้อไปทำปุ๋ยตามที่แจ้งไว้ในการประมูล ซึ่งตามเงื่อนไขประกาศประมูลกำหนดไว้ หากปรากฏว่าบริษัทนำข้าวที่ได้จากการประมูลไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประประสงค์ที่แจ้งไว้ในการประมูลก็เป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบบังคับให้เป็นไปตามที่บริษัทต้องรับผิดต่อไป

ส่วนกรณีหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ให้ระงับการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2560 และการระงับการทำสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 ทำให้สามารถดำเนินการระบายข้าวได้ตามปกติต่อไป ซึ่งในประเด็นนี้มีสื่อบางสำนักกล่าวหาในทำนองว่าผู้ปฏิบัติงานชะลอการปฏิบัติงานไม่ดำเนินการระบายข้าวในสต๊อก (เกียร์ว่าง) นั้น การระบายข้าวในสต๊อกของรัฐเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเป็นระบบ กล่าวคือ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ตามกรอบที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ความเห็นชอบ ซึ่งมิได้เป็นการตัดสินใจของกรมการค้าต่างประเทศเพียงหน่วยงานเดียวตามลำพัง ส่วนที่ยังไม่มีการระบายข้าวโดยทันทีทันใดหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากเจ้าของคลังบางรายที่มีข้อข้องใจเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าว รัฐบาลจึงให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ จนได้ทราบชัดเจนแล้วว่าการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความถูกต้อง ประกอบกับการที่รัฐบาลจำเป็นต้องระบายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน ต้องมีการกำหนดมาตรการ และการกำกับควบคุมดูแลมิให้ผู้ซื้อข้าวลักลอบนำข้าวดังกล่าวไปขายในตลาดการค้าข้าวปกติเพื่อผู้บริโภค ดังนั้น การระบายข้าวที่เตรียมการไว้แล้วในครั้งต่อไปซึ่งมีปริมาณมาก จำเป็นต้องรอความพร้อมในด้านบุคลากรของหน่วยงานปฏิบัติที่มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลมิให้มีการลักลอบนำข้าวไปขายในตลาดข้าวบริโภค ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการระบายข้าวในครั้งต่อไปได้ในไม่ช้า มิได้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเกียร์ว่างตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด

สำหรับกรณีข้อร้องเรียนคลังสินค้า บจก.เจ อาร์ ดีไบรท์ มอเตอร์อินดัสทรีส์ จังหวัดสงขลา ข้อเท็จจริงข้าวในคลังดังกล่าวได้นำออกมาทยอยขายแล้วหลายครั้ง เมื่อเดือนธันวาคม 2557 เดือนมิถุนายน 2559 และเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งผู้ซื้อทุกรายได้ไปทำสัญญาซื้อขายข้าวกับ อคส.แล้ว แต่มีปัญหาในขั้นตอนการรับมอบข้าวระหว่างเจ้าของคลังกับผู้เช่าช่วง ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถรับมอบข้าวได้ตามสัญญา มิใช่ปัญหาปล่อยปละไม่ระบายข้าวในคลังดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่ง อคส.ในฐานะคู่สัญญาเป็นผู้กำกับดูแล ได้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“การดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ที่คณะกรรมการ นบข.ให้ความเห็นชอบ โดยมีขั้นตอนกระบวนการทำงานและแบ่งความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานอย่างชัดเจน จึงยืนยันว่าขั้นตอนการระบายข้าวในส่วนของกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ได้พยายามเร่งรัดการระบายข้าวตามแผนงานและแนวทางการระบายที่คณะกรรมการ นบข.ให้ความเห็นชอบ ด้วยความสุจริตและโปร่งใสมาโดยตลอด” นางดวงพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น