“พาณิชย์” ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบการขอขึ้นทะเบียนสินค้า GI “มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว” เผยล่าสุดเหลือเพียง 5 จังหวัดที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI คาดปีนี้ผลักดันได้ครบ 77 จังหวัดแน่
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสินค้ามะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว และหน่วยราชการในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ ถึงประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งจะสามารถช่วยรักษาคุณภาพ มาตรฐาน ให้มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วคงเอกลักษณ์ได้อย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า และสร้างรายได้แก่ชุมชน พร้อมทั้งจัดทีมให้คำปรึกษาแนะนำ รับฟังปัญหาอุปสรรคในการขึ้นทะเบียน GI รวมถึงเรื่องการตลาด และการพัฒนาสินค้า
สำหรับมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว เป็นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ต้นเตี้ย มีทรงผลกลมรีเหมือนหัวลิง ก้นผลเป็นจีบ 3 จีบชัดเจน ผิวเปลือกมีสีเขียว น้ำของมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว มีรสชาติหวาน ค่าความหวานในช่วง 6-7.5 บริกซ์ กลิ่นของน้ำมีความหอมคล้ายกลิ่นใบเตย ซึ่งเกิดจากสารให้ความหอมที่เรียกย่อๆ ว่า 2-เอพี (AP) สารให้ความหอมชนิดนี้พบในข้าวหอมมะลิและใบเตย
โดยมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วเกิดจากการพัฒนาพันธุ์โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกษตรกรจังหวัดสมุทรสาครจึงได้นำมาปลูกในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน อำเภอบ้านแพ้ว และขยายสู่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มาตั้งแต่ปี 2495 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาครเป็นพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ได้รับอิทธิพลด้านความชื้นในบรรยากาศสม่ำเสมอจึงเจริญเติบโตได้ดี
นายทศพลกล่าวว่า ในปี 2560 กรมฯ ได้ลงพื้นที่เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมให้เกิดการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ครบทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้โครงการส่งเสริมหนึ่งจังหวัดหนึ่งสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ โดยล่าสุดมี 2 จังหวัดที่กรมฯ ได้ส่งเสริมในปีนี้ ได้แก่ สินค้ามะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วจากจังหวัดสมุทรสาคร ยื่นคำขอเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2560 และนิลเมืองกาญจน์ จากจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นคำขอเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2560 และคาดว่าภายในปี 2560 อีก 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว สิงห์บุรี สตูล ระนอง และกระบี่ จะยื่นคำขอต่อกรมฯ เพื่อให้ทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทยมีสินค้า GI เป็นของตัวเองอย่างน้อยจังหวัดละ 1 รายการตามเป้าหมาย