xs
xsm
sm
md
lg

“แคนนอนไฮยีน” รุกสุขอนามัย ขยายตลาด “โรงแรม-ภาครัฐ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “โอซีเอส กรุ๊ป” ใส่เกียร์ลุยตลาดสุขอนามัยภัณฑ์ในห้องน้ำ 500 ล้านบาท ชู “แคนนอน ไฮยีน” เจาะลูกค้าโรงแรม งานภาครัฐมากขึ้น หวังชิงบัลลังก์ผู้นำได้ในอีก 3 ปี จากปัจจุบันรั้งอันดับสาม มั่นใจสิ้นปีรายได้โต 20% แตะ 125 ล้านบาท

นางสาวอคริมา อภิพรพัชร ผู้อำนวยการส่วนธุรกิจแคนนอน ไฮยีน ในเครือ บริษัทรักษาความปลอดภัย พีซีเอส และ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด หรือพีซีเอส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโอซีเอส กรุ๊ป จากประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสุขอนามัยภัณฑ์ในห้องน้ำปี 2560 นี้คาดเติบโตอย่างน้อย 10% จากมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งแคนนอน ไฮยีน ถือเป็นอันดับสามของตลาด

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงานผลักดันให้แคนนอน ไฮยีน มีส่วนแบ่งการตลาดขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดภายในปี 2564 ด้วยกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง ทั้งสินค้านวัตกรรม การบริการที่รวดเร็วและมากกว่าแต่ได้ในระดับราคาที่เท่าคู่แข่งที่เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน รวมถึงเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทุกธุรกิจมากขึ้น เช่น กลุ่มโรงแรม, กลุ่มงานรัฐบาลและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ด้วยการสร้างสุขอนามัยในห้องน้ำและผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงานและลูกค้าทุกคนในองค์กร

จากแผนงานที่วางไว้มั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโต 20% หรือมียอดขายรวมที่ 125 ล้านบาท จากปัจจุบันฐานลูกค้าของแคนนอน ไฮยีน เป็นกลุ่มโรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีฐานลูกค้ารวมกว่า 1,000 ราย โดยหลังจากขยายฐานลูกค้ามากขึ้นคาดว่าภายในปี 2564 จะเพิ่มเป็น 2,000 ราย

สำหรับกลุ่มสินค้าแคนนอน ไฮยีน เช่น สุขอนามัยภัณฑ์เพื่ออากาศอันพึงประสงค์ ได้แก่ CANNON Fresh เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอากาศอัตโนมัติ, สุขอนามัยภัณฑ์สำหรับมือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่จ่ายสบู่อัตโนมัติ, สุขอนามัยภัณฑ์เพื่อพื้นผิวปลอดเชื้อ ได้แก่ น้ำยาทำความสะอาดที่นั่งส้วม ที่ต้านเชื้อไมโครเบียล, สุขอนามัยภัณฑ์เพื่อสุภาพสตรี ได้แก่ ถังขยะสำหรับป้องกันการติดเชื้อ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างมีเอกลักษณ์ อย่างน้ำมันอบเชย และสุขอนามัยภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เครื่องกำจัดกลิ่นและทำให้อากาศมีกลิ่นหอมอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 61 ตลาดน่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท จากปัจจุบันผู้นำตลาดคือ เร็นโทคิล อินนิเชียล มีส่วนแบ่งตลาดมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท, อันดับ 2 คือ ดีแคร์ 150 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ แคนนอน ไฮยีน มีมูลค่าส่วนแบ่งตลาดกว่า 100 ล้านบาท และในปี 64 มั่นใจว่าจะเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 245 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น