“พาณิชย์” เดินหน้ากวาดล้างของปลอมในพื้นที่สีแดง ตั้งเป้าไม่ให้เห็นวางขาย หรือต้องหมดไป เตรียมลุยต่อไล่จับขายออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ พร้อมประสานไปรษณีย์ไทยช่วยตรวจพัสดุภัณฑ์ที่จัดส่ง ดึง กสทช. ตรวจกล่องเคเบิล - ดาวเทียมละเมิดหนัง - เพลง ยันใช้ ม.44 ปลดล็อกจดสิทธิบัตร ไม่ทำให้ยาแพงขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ว่า คณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้กำหนดนโยบายในการปราบปรามสินค้าละเมิด ว่า จะต้องลดปริมาณสินค้าที่วางจำหน่ายหรือทำให้หมดไป โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงทั่วประเทศ เช่น บ้านหม้อ, คลองถม, สะพานเหล็ก , ย่านการค้าพัฒนพงษ์, ถนนสุขุมวิท, ถนนสีลม, ศุนย์การค้าพันธุ์ทิพย์, ตลาดนัดสวนจตุจักร, ไนท์บาซาร์ จ.เชียงใหม่, หาดป่าตอง หากกะตะ หากกะรน จ.ภูเก็ต, เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี, ตลาดจตุจักรชลบุรี จ.ชลบุรี, ตลาดกิมหยง จ.สงขลา, อ่าวนาง จ.กระบี่ และ ตลาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
“การปราบปรามที่ผ่านมา คณะอนุกรรมซึ่งประกอบด้วยหลายหน่วยงาน ได้ร่วมกันกดดันและปราบปรามการละเมิดในพื้นที่สีแดงอย่างเข้มงวด ทำให้การขายสินค้าละเมิดที่ห้างมาบุญครอง และ ตลาดโรงเกลือ ลดลงมากถึง 80% โดยเฉพาะที่ห้างมาบุญครอง ยังได้ขอความร่วมมือเจ้าของสถานที่ไม่ต่อสัญญากับผู้ค้าที่ขายสินค้าละเมิด ส่วนที่ตลาดโรงเกลือ ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันปราบปรามอย่างหนัก และเข้มงวดไม่ให้นำเข้าสินค้าละเมิดมาขายในไทย เพราะสินค้าเหล่านี้ผลิตจากต่างประเทศ และลักลอบนำเข้ามาขายในไทย ซึ่งถือว่าได้ผล”
ทั้งนี้ ผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าของสิทธิ์ สามารถจับกุมผู้ทำผิดฐานละเมิดและคดีถึงที่สุดแล้ว 2,638 คดี มีของกลางที่เป็นสินค้าละเมิดประเภทต่างๆ ประกอบด้วย เสื้อผ้า เครื่องหนัง รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แผ่นซีดี ดีวีดี และอื่นๆ ทั้งสิ้น 3.639 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,756 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทำลายของกลางวันที่ 10 มี.ค. นี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงยังได้มีแผนเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพราะปัจจุบันรูปแบบการขายสินค้าละเมิดได้เปลี่ยนจากการวางขายบนแผงค้า มาเป็นการโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือเว็บไซต์ต่างๆ มากขึ้น ซึ่งกำลังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการ และยังได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการสุ่มตรวจพัสดุภัณฑ์จากการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ให้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ตรวจสอบกล่องสัญญาณเคเบิลและกล่องดาวเทียม ที่มักพบการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และเพลงจากต่างประเทศ โดยหากพบผู้กระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายและส่งต่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษี และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการยึดทรัพย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้บริโภคไม่ซื้อ ไม่ใช้สินค้าละเมิด เพราะหากรัฐป้องกัน และปราบปรามอย่างหนัก แต่ยังมีผู้ซื้อ ผู้ใช้อยู่ มาตรการรัฐจะไม่ได้ผลเลย
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาสิทธิบัตรคงค้าง ที่มีการยื่นคำขอจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญากว่า 36,000 คำขอนั้น คสช. อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ ก่อนที่จะประกาศใช้ และยืนยันว่า การอนุมัติให้จดสิทธิบัตรยา ไม่กระทบต่อราคายา เพราะยาแพงไม่ได้มาจากการอนุมัติคำขอสิทธิบัตร แต่มาจากเรื่องต้นทุนของยา
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การขอใช้มาตรา 44 จุดประสงค์หลักเพื่อลดคำขอสิทธิบัตรที่ยังคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนในประเด็นที่เอ็นจีโอกังวลว่า หากอนุมัติคำขอสิทธิบัตรยาแล้ว จะทำให้เจ้าของสิทธิบัตรยาใหม่ ตั้งราคายาที่จะขายในไทยสูงขึ้น ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า สามารถต่อรองราคากับผู้ค้าได้อยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้ผู้ใช้ยาได้รับผลกระทบแน่นอน