กระทรวงพลังงานชง กพช.พรุ่งนี้ (17 ก.พ.) เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ยันมีความจำเป็นล่าช้ามา 2 ปีแล้วหากตัดสินใจเดินหน้าก็จะเกิดได้ปี 64-65 ส่วนโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ลั่นจับสลากเหมือนเดิม
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 17 ก.พ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะเสนอให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ กำลังผลิต 800 เมกกะวัตต์ เนื่องจากล่าช้ากว่าแผนมาแล้ว 2 ปี หากตัดสินใจเดินหน้าก็จะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ช่วงปี 64-65
“เราเองก็ขอให้เป็นการตัดสินของคนในพื้นที่ จึงอยู่ที่ กพช.จะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือไม่ ครั้งนี้จะได้ข้อสรุปเพราะถือว่าล่าช้ามาแล้ว 2 ปี ถือว่าอันตรายมากสำหรับไฟภาคใต้เพราะไฟภาคใต้ไม่พอ ซึ่งหากไม่เดินหน้าก็ต้องหาแผนรองรับ ซึ่งการส่งจากภาคกลางไปสายส่งแรงดันก็อาจมีปัญหา” รมว.พลังงานกล่าว
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือพีดีพี 2015 ที่ต้องการเฉลี่ยค่าไฟฟ้าให้ต่ำเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนให้มีต้นทุนการผลิตที่จะสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ และตามแผนเทคโนโลยีที่ใช้ก็เป็นมาตรฐานโลกและไทยก็มีหน่วยงานต่างๆ ที่จะเข้าไปดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมหากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำไม่ได้ก็ไม่สามารถก่อสร้างได้ ซึ่งทุกอย่างต้องยึดตามกติกา
“กระทรวงฯ ยืนยันที่จะเดินหน้าพลังงานทดแทบควบคู่กันไป โดยจะเสนอ กพช.รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กแบบผสมผสานในรูปแบบสัญญาเสถียร หรือ SPP Hybrid Firm” รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์เฟส 2 รวม 519 เมกะวัตต์นั้นอยู่ในอำนาจของกระทรวงพลังงานจะดำเนินงานโดยไม่ต้องนำเข้า กพช. ซึ่งในส่วนโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ที่เหลือ 119 เมกะวัตต์นั้นจะรับซื้อด้วยการจับสลากเช่นเฟสแรก ส่วนโซลาร์ฟาร์มราชการ 400 เมกะวัตต์นั้นจะหารือสัปดาห์หน้าเพื่อจะพิจารณารายละเอียดเพราะมีหน่วยงานบางแห่งที่มีกฎหมายรองรับให้สามารถดำเนินการได้ แม้ว่ากฤษฎีกาจะตีความว่าหน่วยงานราชการไม่สามารถขายไฟได้ก็ตาม