xs
xsm
sm
md
lg

“มิตซูบิชิ” ดัมป์แอร์อินเวอร์เตอร์ ลุยซื้อออนไลน์-เชื่อปีนี้ตลาดฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “มิตซูบิชิ” เปิดเกมขยายตลาดแอร์อินเวอร์เตอร์ ส่งรุ่นใหม่พร้อมปรับลดราคาลง ลุยสั่งซื้ออะไหล่ของเอเยนต์ผ่านออนไลน์ ผุดศูนย์บริการเพิ่ม อัดงบตลาดรวมพันล้านบาท รับตลาดรวมปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัว

นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2560 (เม.ย. 60 - มี.ค. 61) บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 15,900 ล้านบาท และตั้งเป้าถึงปี 2563 จะมีรายได้รวมประมาณ 17,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเติบโตปีละ 5% ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้รายได้รวมทั่วโลกของบริษัทแม่เป็น 5 ล้านล้านเยนภายในปี 2563 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ส่วนรายได้ปี 59 ที่จะจบเดือน มี.ค. 60 คาดว่าจะทำได้ 15,000 ล้านบาท ซึ่งไทยเป็นตลาดสำคัญและใหญ่ที่สุดในอาเซียนของมิตซูบิชิ

ทั้งนี้ มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจปี 2560 นี้ เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาล การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มดีขึ้นบ้าง ขณะที่ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า มองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากมูลค่ารวมตลาดเอชเอมากกว่า 50,000 ล้านบาท เช่น เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากว่าอัตราการถือครองแอร์ของคนไทยยังน้อยมากแค่ 27% เท่านั้นเอง รวมทั้งการรณรงค์ของภาครัฐเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมส่งผลให้สินค้านวัตกรรมจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตส่งผลต่อการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ กล่าวว่า ปีนี้จะขยายศูนย์บริการให้รวมเป็น 143 สาขา จากเดิมที่มี 132 สาขาทั่วไทย และจะขยายศูนย์บริการสำหรับลูกค้าโครงการอีก 2 แห่ง คือ ที่ จ.ชลบุรี และ จ.อุดรธานี จากเดิมมี 2 แห่งที่ จ.ภูเก็ต กับ จ.เชียงใหม่ รวมทั้งพัฒนาระบบการสั่งซื้ออะไหล่ของมิตซูบิชิผ่านช่องทางออนไลน์สำหรับร้านค้าตัวแทนโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความสะดวก

นายอนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย กล่าวว่า ปีนี้จะใช้งบการตลาดรวมปี 2560 นี้ประมาณ 1,050 ล้านบาท แยกเป็นเฉพาะแคมเปญแลองครบรอบ 45 ปี 100 ล้านบาท และจะใช้กับงบออนไลน์ 20%

โดยเฉพาะตลาดแอร์ปีนี้จะเน้นหนักแอร์อินเวอร์เตอร์เต็มที่ จากเดิมสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 25% จากรายได้ในส่วนแอร์รวมเพิ่มเป็น 40% ในปีนี้ ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ และปรับลดราคาลงมา โดยแอร์บ้านอินเวอร์เตอร์ปรับลง 5-10% และแอร์พาณิชย์อินเวอร์เตอร์ปรับลง 15-20% เพื่อให้ลดช่องว่างราคาจากแอร์ธรรมดา เพื่อขยายตลาด จากปัจจุบันที่แอร์บ้านระบบอินเวอร์เตอร์สูงกว่าระบบธรรมดาประมาณ 25-30% ต้องการให้เหลือแค่ 10-15% ส่วนแอร์พาณิชย์ระบบอินเวอร์เตอร์สูงกว่าระบบธรรมดาประมาณ 30-40% ต้องการให้เหลือช่วงต่างแค่ 10-20%

ปัจจุบัน “มิตซูบิชิ” เป็นผู้นำแอร์บ้านด้วยแชร์ 33% เติบโต 15% โดยตลาดรวมมีปริมาณ 1.4 ล้านยูนิต ส่วนแอร์พาณิชย์มิตซูบิชิมีแชร์ 20% เติบโต 4% จากตลาดรวมปริมาณ 1.3 ล้านยูนิต

ส่วนสัดส่วนรายได้ของมิตซูบิชิ แยกเป็น แอร์บ้าน 60% แอร์พาณิชย์ 11% ตู้เย็น 13% พัดลม 5% พัดลมระบายอากาศ 4% ที่เหลืออื่นๆ

สำหรับตลาดต่างประเทศ เพิ่งเริ่มทำที่ สปป.ลาวปีเศษ มีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท ด้วยการขายผ่านตัวแทนที่มีสำนักงานใน สปป.ลาว ปีหน้าคาดว่าจะทำได้ 120 ล้านบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น