xs
xsm
sm
md
lg

พี่จูงน้องเวิร์ก! 5 บิ๊กธุรกิจพา SMEs โกอินเตอร์ คาดส่งออกได้เบื้องต้นกว่า 300 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยโครงการพี่จูงน้อง บิ๊กธุรกิจ 5 รายนำ SMEs 85 ราย บุกเจาะตลาดต่างประเทศทั้งจีนและอาเซียนสำเร็จเกินคาด เผยมีโอกาสส่งออกแล้วกว่า 300 ล้านบาท

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้า “โครงการพี่จูงน้อง” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 กลุ่มบริษัทได้เข้าไปช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) จำนวน 85 ราย ทั้งการให้ความรู้ การปรับปรุงสินค้า การปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ตรงตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค จน SMEs มีความพร้อมในการบุกตลาดจีนและอาเซียนแล้ว โดยคาดว่าหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะทำให้ SMEs สามารถส่งออกสินค้าได้เบื้องต้นรวมกว่า 10.31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 319.6 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 5 ราย ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท กลุ่มสหพัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (มหาชน)บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการคัดเลือก SMEs ที่มีความพร้อมมาพัฒนาศักยภาพ และช่วยพาไปบุกเจาะตลาดผ่านทางเครือข่ายของผู้ประกอบการรายใหญ่ มีเป้าหมายตลาดจีน CLMV และอาเซียน ซึ่งได้เริ่มโครางการมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา

นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในการพา SMEs บุกเจาะตลาด เบื้องต้นกลุ่มซีพีได้นำ SMEs ที่ผลิตสินค้าอาหาร 3 ราย พลาสติก 2 ราย ไปบุกเจาะตลาดจีน ผ่านห้างซีพี โลตัส ใน 79 สาขาทั่วประเทศจีน โดยมีแผนเริ่มสั่งซื้อในเดือน พ.ย. 2558 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ซีพีได้รวบรวมเอกสารการส่งออกสินค้าอาหารส่งให้หน่วยงาน China Inspection and Quarantine (CIQ) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบกักกันการนำเข้า-ส่งออกของจีนตรวจสอบแล้ว ส่วนสินค้าพลาสติก ได้มีการเสนอราคาต่อผู้มีอำนาจสั่งซื้อของซีพี โลตัสแล้ว โดยคาดว่าจะมียอดซื้อขายประมาณ 134.80 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มสหพัฒน์ ได้คัดเลือก SMEs 4 ราย คือ รองเท้าหนัง 3 ราย กระเป๋าหนัง 1 ราย นำพาไปสำรวจตลาดและหาคู่ค้ากับนักธุรกิจกัมพูชา และได้นำตัวอย่างสินค้าและราคาสินค้าเจรจากับฝ่ายจัดซื้อของห้าง AEON ซึ่งอยู่ระหว่างรอการพิจารณา คาดว่าจะเริ่มได้ภายในสิ้นปี 2558 และยังได้พาไปจับคู่กับคู่ค้าเพื่อเปิดร้านจำหน่ายสินค้า มีแผนที่จะเปิดประมาณกลางปี 2559 คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 30 ล้านบาท

กลุ่มเซ็นทรัล ได้นำ SMEs 9 ราย คือ กระเป๋า 5 ราย เสื้อผ้า 3 ราย และเครื่องประดับ 1 ราย ไปเจรจาการค้ากับฝ่ายจัดซื้อของห้างสรรพสินค้า Robins, VIVO และ Parkson ของเวียดนาม และห้างเซ็นทรัลของอินโดนีเซีย เพื่อผลักดันให้ห้างนำสินค้าของ SMEs ไปวางจำหน่าย และยังได้มีการหารือกับผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และตัวแทนจำหน่าย เพื่อเจรจาการค้าด้วย คาดว่าจะมีการสั่งซื้อภายในเดือน ม.ค. 2559 มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 30 ล้านบาท

กลุ่ม ไทยเบฟ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือก SMEs ที่จะพาไปบุกเจาะตลาดเวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมาได้ฝึกอบรมให้ความรู้ SMEs ที่ยังไม่มีประสบการณ์ส่งออก และมีความรู้ส่งออกบ้าง จำนวน 100 ราย และได้คัดเลือก SMEs ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นผู้ส่งออก 10 ราย คาดว่าจะสามารถผลักดันให้ SMEs ที่ได้รับการคัดเลือกมีการขายสินค้าได้ประมาณ 30 ล้านบาท

กลุ่มล็อกซเล่ย์ กำลังคัดเลือก SMEs เพื่อพาไปบุกเจาะตลาดจีน โดยจะนำสินค้าของ SMEs ที่ได้รับการคัดเลือกไปจำหน่ายผ่านเครือข่ายซูเปอร์มาร์เกตของห้างแวนการ์ดในจีน โดยตั้งเป็นมุมสินค้าไทย รวมทั้งทำมุมสินค้าไทยในซูเปอร์มาร์เกต Oley ประมาณ 50 สาขาตามเมืองใหญ่ในจีน ซึ่งภายในเดือน ต.ค.นี้จะทราบแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน โดยคาดว่าหากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีมูลค่าการซื้อขายครั้งแรกประมาณ 90 ล้านบาท

นางนันทวัลย์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการพี่จูงน้องปีที่ 2 กรมฯ อยู่ระหว่างการผลักดันให้ผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาช่วยพัฒนาบริษัทน้องในส่วนภูมิภาค และนำไปบุกเจาะตลาด AEC เพื่อใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น