กองทุนการลงทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (GPIF) ซึ่งเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเตรียมการเปลี่ยนแปลงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนเมื่อกว่า 1 ทศวรรษที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมกองทุนสาธารณะซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของญี่ปุ่นหันไปลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ขณะที่ลดการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษาของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้เสนอให้มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ต่อนโยบายการลงทุนของ GPIF ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานด้านแผนยุทธศาสตร์การบริหารและการลงทุน ข้อเสนอดังกล่าวบ่งชี้ว่า นายอาเบะมีความจริงจังในการทำให้กองทุนสาธารณะมีความเป็นอิสระมากขึ้น และมีความพร้อมที่จะสร้างผลตอบแทนจากแหล่งเงินฝากสาธารณะจำนวนมหาศาลของญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนสังคมที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเพียงแค่หาทางหนุนตลาดหุ้น
แต่ลักษณะที่ซับซ้อนของการปฏิรูปอาจจะหมายความว่า กองทุน GPIF ซึ่งมีเม็ดเงินภายใต้การบริหาร 121 ล้านล้านเยน (1.21 ล้านล้านดอลลาร์) และกองทุนอื่นๆที่มักจะทำตาม GPIF นั้น ดำเนินการในการปรับเปลี่ยนการลงทุนล่าช้ากว่าที่นักลงทุนบางส่วนคาดไว้
มีรายงานในเดือนก.ย.ที่เสนอให้ GPIF เปลี่ยนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ที่ให้ผลตอบแทนต่ำมากและการลงทุนหุ้นแบบเชิงรับ มาเป็นการลงทุนในดัชนีใหม่ที่อิงตามผลตอบแทน
GPIF ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ระยะกลางทุกๆ 5 ปี โดยในปีหน้าจะถึงกำหนดที่กองทุนต้องทบทวนการดำเนินงานในปีงบการเงินตั้งแต่เดือนมี.ค.2015
ในเดือนมิ.ย. GPIF ได้เปลี่ยนแปลงสัดส่วนสินทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2001 โดยได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นญี่ปุ่นในพอร์ทการลงทุนหลักเป็น 12% จาก 11% และลดน้ำหนักการลงทุนใน JGB ลงสู่ 60% จาก 67%
ณ สิ้นเดือนมิ.ย. GPIF มีสัดส่วนการลงทุนพันธบัตรสกุลเยน 57.7%, หุ้นญี่ปุ่น 15.2%, พันธบัตรต่างประเทศ 9.7% และหุ้นต่างประเทศ 12.4% ขณะที่ถือเงินสด และสินทรัพย์ระยะสั้นอื่นๆ 5%
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President. RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
HB Banking Group
ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษาของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้เสนอให้มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ต่อนโยบายการลงทุนของ GPIF ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานด้านแผนยุทธศาสตร์การบริหารและการลงทุน ข้อเสนอดังกล่าวบ่งชี้ว่า นายอาเบะมีความจริงจังในการทำให้กองทุนสาธารณะมีความเป็นอิสระมากขึ้น และมีความพร้อมที่จะสร้างผลตอบแทนจากแหล่งเงินฝากสาธารณะจำนวนมหาศาลของญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนสังคมที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเพียงแค่หาทางหนุนตลาดหุ้น
แต่ลักษณะที่ซับซ้อนของการปฏิรูปอาจจะหมายความว่า กองทุน GPIF ซึ่งมีเม็ดเงินภายใต้การบริหาร 121 ล้านล้านเยน (1.21 ล้านล้านดอลลาร์) และกองทุนอื่นๆที่มักจะทำตาม GPIF นั้น ดำเนินการในการปรับเปลี่ยนการลงทุนล่าช้ากว่าที่นักลงทุนบางส่วนคาดไว้
มีรายงานในเดือนก.ย.ที่เสนอให้ GPIF เปลี่ยนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ที่ให้ผลตอบแทนต่ำมากและการลงทุนหุ้นแบบเชิงรับ มาเป็นการลงทุนในดัชนีใหม่ที่อิงตามผลตอบแทน
GPIF ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ระยะกลางทุกๆ 5 ปี โดยในปีหน้าจะถึงกำหนดที่กองทุนต้องทบทวนการดำเนินงานในปีงบการเงินตั้งแต่เดือนมี.ค.2015
ในเดือนมิ.ย. GPIF ได้เปลี่ยนแปลงสัดส่วนสินทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2001 โดยได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นญี่ปุ่นในพอร์ทการลงทุนหลักเป็น 12% จาก 11% และลดน้ำหนักการลงทุนใน JGB ลงสู่ 60% จาก 67%
ณ สิ้นเดือนมิ.ย. GPIF มีสัดส่วนการลงทุนพันธบัตรสกุลเยน 57.7%, หุ้นญี่ปุ่น 15.2%, พันธบัตรต่างประเทศ 9.7% และหุ้นต่างประเทศ 12.4% ขณะที่ถือเงินสด และสินทรัพย์ระยะสั้นอื่นๆ 5%
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President. RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
HB Banking Group
