อีกบริบทที่จะต้องเดินต่อไปของ เดอะพิซซ่า คอมปะนี ที่มีนายอนิรุทธิ์ มหธร เป็นผู้คุมบังเหียนทางด้านการตลาด ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอสใหญ่ ของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี น่าจับตามองอย่างมากแม้ว่าจะเข้ามาบริหารได้ไม่นาน
อนิรุทธิ์ วางแนวทางการทำงานของเขาไว้ว่า เดอะพิซซ่าคอมปะนีจะต้องเป็นเจ้าตลาดให้ได้ ด้วยกลยุทธ์ทุกวิถีทาง เพื่อสอดรับกับตลาดและไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย แต่เขาก็ยอมรับว่า การทำตลาดเพื่อเป้าหมายเป็นเจ้าตลาด QSR หรือ อาหารจานด่วน ทุกวันนี้ยากมากขึ้น เพราะธุรกิจดังกล่าวไม่เพียงแต่จะแข่งกัน เรื่องของเมนู รสชาติ โปรโมชั่น หรือ รูปแบบของบริการเสริมที่มีความจำเป็นยิ่งกับธุรกิจนี้
แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจและทางเลือกของอาหารที่มากขึ้น ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาหลัก
ในแง่ของการแข่งด้านบริการนั้น เพื่อทำให้ลูกค้าพอใจ อนิรุทธิ์ย้ำว่า “ผมกำชับพนักงานทุกคนว่า ต้องคิดเสมอว่าลูกค้าคือพระเจ้า หรือ คิดว่าเป็นอีกคนในครอบครัวของเรา ที่จะต้องทำทุกอย่างให้ลูกค้ามีความสุขและพึงพอใจต่อรูปแบบการบริการให้ได้มากที่สุด”
ตรงนี้คือเหตุผลและเป็นที่มาของการปรับตัวด้านบริการดีลิเวอรี่อีกครั้งของเดอะพิซซ่าคอมปะนี ที่ได้สร้างความแปลกใหม่ด้วยการขยายเวลาการบริการดีลิเวอรี่ ตั้งแต่เวลา 10.00 -24.00 น. จากเดิมมีบริการถึงแค่เวลา 22.00 น.เท่านั้น
การที่เราทำตลาดเพิ่มความหลากหลายเพื่อสร้างแรงดึงดูดเป็นตัวเลือกอันดับแรกให้กับลูกค้านั้น จะเป็นอีกหนึ่งทางที่จะเสริมรายได้ให้กับบริษัทฯ เช่นเดียวกับ การออกเมนูรสชาติใหม่ รวมทั้งแคมเปญที่มีความถี่และความคุ้มค่าของลูกค้า จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้ามีรอยัลตี้ แบรนด์เพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมาผมยอมรับว่าเข้มงวดต่อการทำตลาดภายในร้านอยู่มากพอสมควร”
เช่นกรณีเรื่องของอาหาร จากกนี้ไป กลุ่มเมนูไหนที่โอเค อาจไม่ใช่เมนูหลัก อาจเป็นเมนูอาหารว่าง จะพวกสแน็ค หรือ พวกสลัดที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นจะเพิ่มสัดส่วนของสินค้าอาหารว่างเข้ามาให้มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มที่ไม่ใช่พิซซ่ามีเพียง 5% เท่านั้น
“เป้าหมายต่อไปของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ต้องเป็นมากกว่า อาหารจานด่วน ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดที่เป็นอาหารขยะไม่มีประโยชน์ในความรู้สึกของอีกหลายคน เราจะนำเมนูใหม่ที่ไม่ใช่พิซซ่ามานำเสนอมากขึ้น” อนิรุทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
อนิรุทธิ์ วางแนวทางการทำงานของเขาไว้ว่า เดอะพิซซ่าคอมปะนีจะต้องเป็นเจ้าตลาดให้ได้ ด้วยกลยุทธ์ทุกวิถีทาง เพื่อสอดรับกับตลาดและไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย แต่เขาก็ยอมรับว่า การทำตลาดเพื่อเป้าหมายเป็นเจ้าตลาด QSR หรือ อาหารจานด่วน ทุกวันนี้ยากมากขึ้น เพราะธุรกิจดังกล่าวไม่เพียงแต่จะแข่งกัน เรื่องของเมนู รสชาติ โปรโมชั่น หรือ รูปแบบของบริการเสริมที่มีความจำเป็นยิ่งกับธุรกิจนี้
แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจและทางเลือกของอาหารที่มากขึ้น ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาหลัก
ในแง่ของการแข่งด้านบริการนั้น เพื่อทำให้ลูกค้าพอใจ อนิรุทธิ์ย้ำว่า “ผมกำชับพนักงานทุกคนว่า ต้องคิดเสมอว่าลูกค้าคือพระเจ้า หรือ คิดว่าเป็นอีกคนในครอบครัวของเรา ที่จะต้องทำทุกอย่างให้ลูกค้ามีความสุขและพึงพอใจต่อรูปแบบการบริการให้ได้มากที่สุด”
ตรงนี้คือเหตุผลและเป็นที่มาของการปรับตัวด้านบริการดีลิเวอรี่อีกครั้งของเดอะพิซซ่าคอมปะนี ที่ได้สร้างความแปลกใหม่ด้วยการขยายเวลาการบริการดีลิเวอรี่ ตั้งแต่เวลา 10.00 -24.00 น. จากเดิมมีบริการถึงแค่เวลา 22.00 น.เท่านั้น
การที่เราทำตลาดเพิ่มความหลากหลายเพื่อสร้างแรงดึงดูดเป็นตัวเลือกอันดับแรกให้กับลูกค้านั้น จะเป็นอีกหนึ่งทางที่จะเสริมรายได้ให้กับบริษัทฯ เช่นเดียวกับ การออกเมนูรสชาติใหม่ รวมทั้งแคมเปญที่มีความถี่และความคุ้มค่าของลูกค้า จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้ามีรอยัลตี้ แบรนด์เพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมาผมยอมรับว่าเข้มงวดต่อการทำตลาดภายในร้านอยู่มากพอสมควร”
เช่นกรณีเรื่องของอาหาร จากกนี้ไป กลุ่มเมนูไหนที่โอเค อาจไม่ใช่เมนูหลัก อาจเป็นเมนูอาหารว่าง จะพวกสแน็ค หรือ พวกสลัดที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นจะเพิ่มสัดส่วนของสินค้าอาหารว่างเข้ามาให้มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มที่ไม่ใช่พิซซ่ามีเพียง 5% เท่านั้น
“เป้าหมายต่อไปของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ต้องเป็นมากกว่า อาหารจานด่วน ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดที่เป็นอาหารขยะไม่มีประโยชน์ในความรู้สึกของอีกหลายคน เราจะนำเมนูใหม่ที่ไม่ใช่พิซซ่ามานำเสนอมากขึ้น” อนิรุทธิ์กล่าวทิ้งท้าย