xs
xsm
sm
md
lg

“พรศิริ”ผงาดเวทีพาต้ารับตำแหน่งใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกพาต้าโหวต “พรศิริ” นั่งประธานสมาชิกภาครัฐ พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ ประเทศไทยในอีก3 ปี เล็งดึงเอเชียแปซิฟิก เอเชียตะวันออกและยุโรปเป็นตลาดหลักของประเทศ

รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งสำคัญของผู้บริหารระดับสูงของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในตำแหน่งประธานสมาชิกภาครัฐ (Chairman of Government Category) ประจำปี 2007-2008 การดำรงตำแหน่งนี้จะได้รับสิทธิในการเป็นกรรมการบริหาร (Executive Committee) โดยอัตโนมัติ มีภารกิจสำคัญที่จะเข้าร่วมประชุม 2 ครั้งต่อปี ได้แก่ งาน PATA Travel Mart ในเดือนกันยายน 2550 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และการประชุม PATA Board of Directors ราวเดือนมีนาคม/เมษายน 2551

บทบาทและความสำคัญในตำแหน่งดังกล่าว ครอบคลุมถึงการกำหนดทิศทาง นโยบายขององค์กรในด้านการบริหาร การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โลกปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว การจัดการ ตลอดจนฐานะทางด้านการเงินและบัญชีของสมาคม ซึ่งรวมถึงโอกาสในการพบปะผู้บริหารระดับสูงและผู้นำในวงการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีอำนาจในการตัดสินใจจากภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันกลยุทธ์การดำเนินนโยบายต่างประเทศด้านการตลาดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

อย่างไรก็ตามช่วง 2 ปีนี้ นางพรศิริ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการ (Board of Directors) ของสมาคมฯ มาโดยตลอด ครั้งเป็นรองผู้ว่าการฝ่ายตลาดต่างประเทศ มีวาระตั้งแต่ปี 2003-2005 และปี 2005-2007 จนต่อเนื่องถึงปัจจุบัน นับเป็นสมัยที่ 3 ในระหว่างปี 2007-2009

ทั้งนี้ในการประชุมสามัญประจำปีสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (PATA Annual General Meeting Seminar) ในหัวข้อเรื่อง “Asia Pacific & North America – The Way Forward’ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา นางพรศิริ ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ต่อหน้าผู้นำคนอื่นๆที่มาเข้าร่วมประชุมว่า การเดินทางท่องเที่ยวของไทยในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีตลาดหลัก คือ เอเชียแปฟิก เอเชียตะวันออก( จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน) และยุโรป (ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และสวีเดน)

สำหรับเป้าหมายในปี 2550 คาดว่าไทยจะได้รับจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้า 14.8 ล้านคน ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้มูลค่าประมาณ 547.5 พันล้านบาท โดยจะเน้นกลยุทธ์ทางการตลาด ไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพมากกว่าปริมาณ รวมถึงการเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ เช่น ตลาดไมซ์ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สปา และการส่งเสริมการขายด้วย Amazing Thailand Campaign ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วเมื่อปี 2542-2543 รวมถึงการประยุกต์การใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริเข้ากับการท่องเที่ยว
กำลังโหลดความคิดเห็น