รพ.สมิติเวช ศรีราชาเทงบ 134 ล้านบาทเนรมิตโรงพยาบาลใหม่ พร้อมรับมือการเป็นฮับศูนย์สุขภาพภาคตะวันออก หวังชูคุณภาพเทียบเท่า ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท ชี้การแข่งขันในปัจจุบันยังไม่รุนแรง แต่อนาคตต้องเร่งปรับตัวพร้อมรับมือ ร.พ.เกิดใหม่
นายแพทย์พิรัส ประดิษฐวนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา กล่าวภายหลังงานฉลองครบรอบ 12 ปี ร.พ. สมิติเวช ศรีราชาว่า ปีนี้ทางโรงพยาบาลมีเป้าหมายพัฒนาโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชาให้เป็นเครือข่ายที่มีมาตรฐานเทียบเท่ากับกับ ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิทในกรุงเทพฯ โดยได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 134 ล้านบาท สำหรับลงทุนอาคารสถานที่เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย บุคลากรและทีมแพทย์ในการรักษาโรคที่ซับซ้อน เพื่อให้ได้มาตรฐานตามแพทย์ชั้นสูงเทียบเท่ากับ ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท
"เราพัฒนาการบริการ ระบบงานให้มีคุณภาพ ก็เพื่อสร้างความสะดวกแก่ลูกค้าที่ไม่ต้องเดินทางไปถึง ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท เป็นการช่วยผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งเดิมทีเรามีผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นค่อนข้างมากมาตลอด เมื่อเทียบกับ ร.พ.แห่งอื่นในพื้นที่ เราจึงคุ้นเคยเป็นอย่างดีในการรักษา ซึ่งในปีนี้เราได้เตรียมผู้ประสานงานชาวญี่ปุ่นไว้ 3 คน เพื่อรองรับตรงจุดนี้ และคาดว่าแนวโน้มลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มมากขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงได้เน้นการปรับปรุงเรื่องบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเร่งการประชาสัมพันธ์ ร.พ.อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเราต้องการให้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เป็นฮับ (Hub) ในเรื่องสุขภาพในภูมิภาคตะวันออก" น.พ.พิรัสกล่าว
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังมีลูกค้าชาวต่างชาติจากประเทศอื่นๆ คิดเป็น 8 % ของคนไข้ทั้งหมด อาทิ อังกฤษ อเมริกา เยอรมัน จีน เป็นต้น โดยในเดือน ต.ค.โรงพยาบาลจะเปิดอาคารใหม่รองรับเป็นศูนย์เฉพาะโรค ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท และจะแบ่งงบประมาณอีก 60 ล้านบาทสำหรับปรับปรุงอาคารผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ตลอดจนการลงทุนกับเครื่องมือแพทย์อีก 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะเพิ่มจำนวนแพทย์เฉพาะทางซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 30 ราย เพื่อรองรับการรักษาโรคซับซ้อนหรือโรคที่พบบ่อย เช่น หัวใจ ไต เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น
ส่วนในด้านแผนการตลาดนั้นทางโรงพยาบาลได้ตั้งงบประมาณ 2% จากงบประมาณทั้งหมด ทำการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ความเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เช่น การดูแลผู้ป่วยร่วมกัน การประสานงานในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชาได้ชูจุดเด่นในเรื่องของการบริการ และการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ
สำหรับภาวการณ์แข่งขันทางการตลาดในส่วนของโรงพยาบาลเอกชนในภูมิภาคตะวันออก น.พ.พิรัส กล่าวว่า ยังไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนในแต่ละแห่งมีกลุ่มลูกค้าต่างกัน แต่คาดว่าในอนาคตการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น เพราะภาคตะวันออกโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ 3-5 ปีข้างหน้า จะมีผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่ายของผู้ประกอบการโรงพยาบาลเดิมขยายเข้ามาในพื้นที่ จ.ชลบุรีมากขึ้นด้วย
นายแพทย์พิรัส ประดิษฐวนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา กล่าวภายหลังงานฉลองครบรอบ 12 ปี ร.พ. สมิติเวช ศรีราชาว่า ปีนี้ทางโรงพยาบาลมีเป้าหมายพัฒนาโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชาให้เป็นเครือข่ายที่มีมาตรฐานเทียบเท่ากับกับ ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิทในกรุงเทพฯ โดยได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 134 ล้านบาท สำหรับลงทุนอาคารสถานที่เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย บุคลากรและทีมแพทย์ในการรักษาโรคที่ซับซ้อน เพื่อให้ได้มาตรฐานตามแพทย์ชั้นสูงเทียบเท่ากับ ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท
"เราพัฒนาการบริการ ระบบงานให้มีคุณภาพ ก็เพื่อสร้างความสะดวกแก่ลูกค้าที่ไม่ต้องเดินทางไปถึง ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท เป็นการช่วยผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งเดิมทีเรามีผู้ป่วยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นค่อนข้างมากมาตลอด เมื่อเทียบกับ ร.พ.แห่งอื่นในพื้นที่ เราจึงคุ้นเคยเป็นอย่างดีในการรักษา ซึ่งในปีนี้เราได้เตรียมผู้ประสานงานชาวญี่ปุ่นไว้ 3 คน เพื่อรองรับตรงจุดนี้ และคาดว่าแนวโน้มลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มมากขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงได้เน้นการปรับปรุงเรื่องบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเร่งการประชาสัมพันธ์ ร.พ.อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเราต้องการให้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เป็นฮับ (Hub) ในเรื่องสุขภาพในภูมิภาคตะวันออก" น.พ.พิรัสกล่าว
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังมีลูกค้าชาวต่างชาติจากประเทศอื่นๆ คิดเป็น 8 % ของคนไข้ทั้งหมด อาทิ อังกฤษ อเมริกา เยอรมัน จีน เป็นต้น โดยในเดือน ต.ค.โรงพยาบาลจะเปิดอาคารใหม่รองรับเป็นศูนย์เฉพาะโรค ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท และจะแบ่งงบประมาณอีก 60 ล้านบาทสำหรับปรับปรุงอาคารผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ตลอดจนการลงทุนกับเครื่องมือแพทย์อีก 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะเพิ่มจำนวนแพทย์เฉพาะทางซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 30 ราย เพื่อรองรับการรักษาโรคซับซ้อนหรือโรคที่พบบ่อย เช่น หัวใจ ไต เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น
ส่วนในด้านแผนการตลาดนั้นทางโรงพยาบาลได้ตั้งงบประมาณ 2% จากงบประมาณทั้งหมด ทำการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ความเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เช่น การดูแลผู้ป่วยร่วมกัน การประสานงานในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชาได้ชูจุดเด่นในเรื่องของการบริการ และการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ
สำหรับภาวการณ์แข่งขันทางการตลาดในส่วนของโรงพยาบาลเอกชนในภูมิภาคตะวันออก น.พ.พิรัส กล่าวว่า ยังไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนในแต่ละแห่งมีกลุ่มลูกค้าต่างกัน แต่คาดว่าในอนาคตการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น เพราะภาคตะวันออกโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ 3-5 ปีข้างหน้า จะมีผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่ายของผู้ประกอบการโรงพยาบาลเดิมขยายเข้ามาในพื้นที่ จ.ชลบุรีมากขึ้นด้วย