xs
xsm
sm
md
lg

เตือนราคาน้ำมันปลายปีแตะ $60 มาตรการโอเปกเพิ่มผลผลิตไร้ผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - นักวิเคราะห์ระบุ 4 ปัจจัยดันราคาน้ำมันแตะระดับ 60 ดอลลาร์ปลายปีนี้ พร้อมคาดหมายโอเปกเตรียมเพิ่มเพดานการผลิตสูงสุดในรอบ 25 ปี เพื่อตอบสนองดีมานด์สูงลิ่วทั่วโลก ทว่าการตัดสินใจดังกล่าวไม่น่าส่งผลต่อราคาน้ำมันมากนัก เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นเชิงตัวเลขเท่านั้น

ฟรังซัวส์ เปอร์แรง จากนิตยสารเปโตรล เอท์ ก๊าซ ของฝรั่งเศส ชี้ว่าน้ำมันจะแพงอีกนาน และแพงกว่าเมื่อปี 2002 และปี 2003 ซึ่งถือเป็นปีฐานสำหรับอุตสาหกรรม

ไซมอน วาร์เดลล์ นักวิเคราะห์อาวุโสของโกลบัล อินไซด์ในลอนดอน รับลูกว่าราคาน้ำมันช่วง 2-3 เดือนนี้จะเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 45-55 ดอลลาร์ และอาจขยับไปแตะระดับ 60 ดอลลาร์ช่วงปลายปี ขึ้นอยู่กับสถานะการสำรองน้ำมันของประเทศต่างๆ

บริษัทน้ำมันส่วนใหญ่เห็นแบบนั้นเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ จอห์น บราวนี ผู้อำนวยการใหญ่ของบีพี กล่าวว่าราคาน้ำมันจะยืนระยะเหนือระดับ 40 ดอลลาร์ไปอีก 4 ปี

ทั้งนี้ มีปัจจัยมากมายสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว อย่างแรกคือดุลยภาพอันละเอียดอ่อนระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน โดยในรายงานประจำปีที่ออกมาวันศุกร์ที่แล้ว (10) สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ทำนายว่าการบริโภคน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2.2% ในปีนี้เป็น 84.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี)

ไออีเอยังระบุว่า เดือนที่ผ่านมาอุปทานน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 84.6 ล้านบีพีดี หรือเพิ่มขึ้น 260,000 บีพีดีจากเดือนเมษายน ขณะเดียวกันผลผลิตของ 11 ชาติสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ลดลงจาก 29.4 ล้านบีพีดีในเดือนพฤษภาคม เหลือ 29.3 ล้านบีพีดีในเดือนก่อนหน้า

ปัจจัยขับดันราคาน้ำมันอย่างที่สองคือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับการสำรองน้ำมัน กล่าวคือปริมาณน้ำมันสำรองขณะนี้สูงกว่าปี 2002 และ 2003 แต่ต่ำกว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว

ปัจจัยต่อมาคือการขาดแคลนศักยภาพการกลั่นน้ำมันทั่วโลก ขณะที่ต้นทุนการค้นหา จัดส่งและผลิตน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น

นอกเหนือจากความกังวลเรื่องอุปทานแล้ว ยังมีความเคลือบแคลงอย่างกว้างขวางว่าปริมาณน้ำมันที่กล่าวอ้างกันนั้นมีมากกว่าความเป็นจริงถึง 8 เท่า ขณะที่ทางโอเปกยืนกรานว่าการเก็งกำไรเป็นตัวการดันราคาน้ำมันสูงเกินจริงราว 5-8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความไร้เสถียรภาพด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยที่ 4 ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน โดยนักวิเคราะห์อ้างอิงสถานการณ์ปัญหาในอ่าวเปอร์เซีย วิกฤตการณ์ยูคอส อดีตผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของรัสเซีย การประท้วงในไนจีเรีย ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลาและกับอิหร่าน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าในการประชุมวันพรุ่งนี้ (15) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง รัฐมนตรีโอเปกจะมีมติเพิ่มโควต้าการผลิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อาลี อัล-ไนมิ สมาชิกชาติเดียวที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (11) ว่าทางกลุ่มสรุปแล้วว่า จะเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 500,000 บีพีดี เป็น 28 ล้านบีพีดี

ขณะที่เอดมันด์ เดาโกรุ รัฐมนตรีพลังงานน้ำมันไนจีเรีย ให้คำมั่นว่าโอเปกจะทำเท่าที่ทำได้เพื่อให้ราคาน้ำมันขยับลง ภายหลังจากที่กระโจนทะลุหลัก 55 ดอลลาร์ช่วงสั้นๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ หากนับรวมกำลังผลิตของอิรัก จะเท่ากับโอเปกมีผลผลิตทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบีพีดี สูงสุดนับจากเดือนตุลาคม 2004 และเกือบถึงระดับสูงสุดในปี 1980

กระนั้น นักวิเคราะห์ไม่คิดว่าการเพิ่มกำลังผลิตของโอเปกจะส่งผลต่อราคาน้ำมันมากนัก เนื่องจากเป็นการเพิ่มเพียงตัวเลข ขณะที่เดินเครื่องผลิตเต็มกำลังอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น