xs
xsm
sm
md
lg

มาเลย์เสนอใช้ "การทูตพลังงาน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเรียกร้องให้บรรดาประเทศเอเชียให้ความสำคัญกับ "การทูตด้านพลังงาน" เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาคในภาวะที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

อับดุลเลาะห์กล่าววานนี้ (13) ว่า เนื่องจากคาดกันว่าเอเชียจะมีสัดส่วนของดีมานด์พลังงานเพิ่มมากที่สุด ดังนั้นประเด็นความมั่นคงของแหล่งพลังงานของบรรดาบริษัทน้ำมันแห่งชาติจะมีความรุนแรงมากขึ้น

เขากล่าวกับผู้เข้าร่วมงานประชุมน้ำมันและก๊าซแห่งเอเชียราว 1,200 คน ว่า "ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ดูเหมือนว่าทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับเอเชียนั้น ขึ้นอยู่กับพันธสัญญาทางการเมืองเพื่อร่วมมือกันในเรื่องการทูตด้านพลังงาน"

นายกรัฐมนตรีแดนเสือเหลืองระบุว่า วัตถุประสงค์ของการทูตด้านพลังงานอาจเป็นการลดการพึ่งพาปริมาณน้ำมันจากภายนอกภูมิภาค และลดการพึ่งพิงการสะสมน้ำมันสำรอง ซึ่งในทางกลับกันอาจช่วยลดแรงกดดันด้านราคาด้วย

สำหรับประเด็นเรื่องดีมานด์ในอนาคต เขาระบุว่า การเติบโตอันแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเอเชียหมายความว่า ภูมิภาคนี้จะต้องการความมั่นใจเรื่องความมั่นคงของปริมาณพลังงาน

อับดุลเลาะห์แจงว่า ภายในปี 2020 เอเชียจะต้องการน้ำมันสูงถึง 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 30% ของการบริโภคน้ำมันโลก พร้อมระบุว่าภูมิภาคเอเชียบริโภคน้ำมันราว 24 ล้านบาร์เรลต่อวันจากดีมานด์ทั้งหมด 84 ล้านบาร์เรล

ด้านฮัสสัน มาริแคน กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของปิโตรนาส บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย กล่าวระหว่างการเปิดประชุมว่า ยังมีปริมาณน้ำมันในโลกอีกมาก "น้ำมันยังไม่หมดไปจากโลก และน้ำมันจะยังคงเป็นทางเลือกด้านพลังงานต่อไป สิ่งที่จำเป็นคือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่และทรัพยาบุคคลในการค้นหาและพัฒนาพลังงานสำรอง เพื่อเติมเต็มความต้องการในอนาคต"

ทั้งนี้เขามองว่าราคาน้ำมันที่ทะยานสูงเกิดจากความล้มเหลวในการคาดการณ์ดีมานด์ และการขาดแคลนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการกลั่น

ในวันเดียวกัน เจอรอน แวน เดอร์ เวียร์ ประธานบริหารของโรยัล ดัตช์/เชลล์ มองว่า "แทบจะไม่มีกำลังการผลิตสำรองเหลืออยู่ในระบบน้ำมันโลก ซึ่งหมายความว่าระบบโดยรวมไม่ใช่สิ่งที่ทนต่อวิกฤตได้ และหากมีอะไรเกิดขึ้นตลาดก็จะตอบสนองทันที" พร้อมเตือนว่าราคาน้ำมันจะยังคงผันผวนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น