xs
xsm
sm
md
lg

เอสเธติคคาดแนวโน้มโรงแรมรีสอร์ตมาแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวอย่างมาก แต่ในปัจจุบันตลาดเริ่มมีการชะลอตัวโดยเฉพาะในกลุ่มบ้านจัดสรรที่ขณะนี้อัตราการเติบโตของตลาดเป็นไปในทิศทางที่ลดลง จากที่ก่อนหน้านี้อัตราการขยายตัวสูงถึง20-30% แต่ปีนี้ผู้ประกอบการในตลาดหลายๆ ราย เชื่อว่าอัตราการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์รวมจะไม่เกิน15 %
นายณัฐธร ธรรมบุตร ประธานกรรมการ บริษัท เอสเธติค กรุ๊ป ผู้ประกอบการออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอก สถาปัตยกรรมภายใน ออกแบบโรงแรมและรีสอร์ต และผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน เปิดเผยถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่า หลังจากที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ตลาดเริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว ส่วนตลาดอาคารสูงคอนโดมิเนียมและออฟฟิศสำนักงานเช่า แม้หลายฝ่ายจะเห็นว่าในส่วนของตลาดออฟฟิศเช่าในอนาคตจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ตลาดออฟฟิศเช่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาหลายปี จึงเชื่อว่าตลาดน่าจะเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับในตลาดยังมีอาคารสร้างค้างอยู่อีกกว่า 300 อาคาร ซึ่งเชื่อว่าหากผู้ประกอบการต้องการสร้างซัปพลายป้อนตลาดเพื่อรองรับความต้องการก็ยังสามารถนำอาคารสร้างค้างดังกล่าว มาพัฒนาต่อได้
ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมและอาคารสูงก็เริ่มชะลอตัวแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะในเขตถนนสุขุมวิท ทั้งนี้คาดว่าย่านที่จะมีการพัฒนา ละยังมีความต้องการในอนาคตซึ่งเชื่อว่าจะสูงขึ้นตามอัตราการขยายตัวของเมือง คือย่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตอาจจะไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ ตลาดที่จะมีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และน่าจับตามองคือตลาดโรงแรม และที่พักอาศัยซึ่งรองรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดที่พักอาศัยประเภทบูติกโฮเต็ล และรีสอร์ต ไม่เกิน 40 ยูนิต ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก
นายณัฐธร กล่าวว่า สำหรับ เอสเธติค กรุ๊ป ประกอบด้วย 4 บริษัทคือ บริษัท เอสเธติค ครีเอเทค แอนด์ อิมเมจิเนียร์ จำกัด รับงานด้านการออแบบสถาปัตยกรรมภายนอก บริษัท เอสเธติค อินทีเรียส์ จำกัด รับงานด้านสถาปัตยกรรมภายใน บริษัท เดอะสปา สตูดิโอ จำกัด รับงานออกแบบตกแต่งโรงแรมและรีสอร์ต และบริษัท เอสเธติค ซิสเต็มส์ จำกัด รับงานด้านออกแบบและผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน โดยในปีทีผ่าน กลุ่มเอสเธติค มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานรวม 60 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้รวมจาก 3 บริษัท แรก 30 ล้านบาท และบริษัท เอสเธติค ซิสเต็มส์ 30 ล้านบาท ส่วนในปี2547 บริษัทเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการโรงแรม และบริษัทเป็นส่วนใหญ่ และในปีนี้บริษัทก็ยังคงเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า บริษัท และผู้ประกอบการเนื่องจากกำหนดและระยะเวลาในการร่วมงานมีมาตรฐานและระยะเวลาที่ตายตัว
สำหรับปี2548 นี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 140 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากบริษัท เอสเธติค ซิสเต็มส์ จำกัด 60 ล้านบาท และรายได้รวมจากอีก 3 บริษัท 80 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตประมาณ 100 % เนื่องจากในปี48 นี้บริษัทมีการรับงานเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ บริษัทเอสเธติค ครีเอเทค แอนด์ อิมเมจิเนียร์ จำกัด ได้เซ็นสัญญารับงานไปแล้ว 8 โครงการโดยแต่ละโครงการมีมูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการประมาณ 300-500 ล้านบาท ส่วนบริษัท เอสเธติค อินทีเรียส์ จำกัด ได้มีการเซ็นสัญญารับงานออกแบบแล้ว 8 โครงการโดยเฉลี่ยมูลค่า 50 ล้านบาทต่อโครงการ สำหรับบริษัท เดอะสปา สตูดิโอ จำกัด มีการเซ็นสัญญารับงานออกแบบโรงแรม และรีสอร์ตแล้ว 5 โครงการใหญ่ เฉลี่ยมูลค่า 500 ล้านบาทต่อโครงการ และคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญารับงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ในปี 48 นี้บริษัทจะเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันกับต่างประเทศเนื่องจากการเปิดเขตการค้าเสรี จะทำให้ในอนาคตการแข่งขันจะเปิดกว้างมากขึ้นซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัท ที่จะสามารถรับงานในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยในช่วงแรกนี้บริษัทได้มีการร่วมงานกับบริษัทพันธมิตรในการรับงานในต่างประเทศ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการรับงานในต่างประเทศประมาณ 10 %และในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการรับงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 30 %
กำลังโหลดความคิดเห็น