xs
xsm
sm
md
lg

ปี48ขาลงอสังหาฯโตหดตัวแนะทางรอดบริหารต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกอบชัย ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงแรกของปี 2548 ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะยังคงมีอัตราการเติบโตได้บ้างเล็กน้อย เนื่องจากผู้บริโภคเร่งตัดสินใจ ซื้อหรือสร้างบ้านก่อนที่ราคาค่าก่อสร้างจะปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่หากมองภาพทั้งปีเชื่อว่าอสังหาฯจะมีการเติบโตที่ลดลง เพราะเมื่อราคาอสังหาฯปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก
“ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงขาลงของอสังหาฯ การสร้างบ้านไว้ในสต๊อกจำนวนมากถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี มีความเสี่ยงสูง ควรมีการบริหารจัดการที่ดี แต่ถ้าเป็นช่วงขาขึ้นการมีสต๊อกไว้ในมือเยอะๆถือว่าดี ตอนนี้ตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทเป็นตลาดที่ดี ส่วนบ้านราคาตั้งแต่ 9 ล้านบาทขึ้นไปมีหดตัวลง” นายกอบชัย กล่าว
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่าในปีนี้ไม่ใช่เป็นปีทองของธุรกิจอสังหาฯ เนื่องจากมีปัจจัยลบมารุมเร้ารอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับขึ้น ปัญหาเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ ทั้งระบบ โดยเฉพาะในตลาดรับสร้างบ้าน
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคจะยังเน้นสร้างบ้านเดี่ยวระดับกลางราคา 2-2.5 ล้านบาท แม้ว่ารสนิยมของผู้บริโภคจะเน้นบ้านหรู แต่กำลังเงินในการผ่อนจ่ายค่างวดการก่อสร้างเริ่มจำกัดด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว ทำให้บ้านระดับ 2-5 ล้านขยายตัวขึ้นมามาก ส่วนบ้านราคาแพงมีแนวโน้มลดลง
สำหรับทิศทางของธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ผู้ประกอบการจะต้องเน้นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามเมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับราคาค่าก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 5% เพราะต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างได้มีการปรับสูงขึ้น และจากการที่ราคาน้ำมันขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาจะปรับราคาค่าก่อสร้างอีกไม่เกิน 5% ในช่วงปลายไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างหลายชนิด ได้มีการปรับขึ้นสูงขึ้น 5-7% แล้ว ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้น บริษัทได้มีการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างบางตัว ซึ่งมีการเจรจาในลักษณะบิ๊กล็อต ผ่านทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จึงช่วยประหยัดต้นทุนค่าก่อสร้างได้บางส่วน
นางสาวศุภิชชา กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมา ภารกิจแรกจะดำเนินการ คือเน้นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของบริษัทให้มีความทันสมัยมากขึ้น หลังจากที่บริษัทเปิดดำเนินกิจการมานาน 44 ปี โดยจะใช้ กลยุทธ์การตลาดแบบ New Marketing Concept ที่เน้นสร้างเสริมความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเก่า และสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ให้เกิดความเชื่อมั่นและเลือกใช้บริการ
นอกจากนี้ จะเน้นการสร้างแบรนด์ โดยได้ปรับโลโก้บริษัทใหม่ ให้เข้ากับลูกค้าใหม่ในวัยทำงานมากขึ้น
และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค โดยได้ทุ่มงบการตลาดรวม 25 ล้านบาท รวมถึงมีการผูกพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทำการตลาดร่วมกัน ล่าสุดได้ร่วมกับ บริษัท เอสบี.เฟอร์นิเจอร์ แจกชุด เครื่องครัว ให้กับผู้สั่งสร้างบ้าน
อย่างไรก็ตามบริษัทจะให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเก่า ที่มีไม่ต่ำกว่า 10,000 หลัง ให้หันมาใช้บริการในการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้านมากขึ้น เนื่องจากบ้านที่อยู่ไป 5 ปี ก็จะถึงรอบในการปรับปรุง ทางด้านยอดขายรวมของบริษัทในปี 2547 มีจำนวน 600 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท
ส่วนในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ 700 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากการก่อสร้างบ้าน 550 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนบ้าน 250-300 หลัง และรับก่อสร้างบ้านในโครงการจัดสรร 2 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 150 ล้านบาท สำหรับ ตัวเลขตลาดรวมบ้านสร้างเอง ในเขตกทม.และปริมณฑล มีประมาณ 20,000 ยูนิต มีมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจรับสร้างบ้าน มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 4,000 ยูนิต มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น