โดย ถนอม พิพิธยากร
พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเดินหน้าแก้ปัญหาคนไทยทุกภาคส่วนเบ็ดเสร็จอีก 4 ปีข้างหน้า หลังพรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 6 ก.พ. เบ็ดเสร็จ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันจะทุ่มเทการทำงาน โดยยึดผลประโยชน์ประเทศชาติ-ประชาชน เป็นหลัก ในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังได้คะแนนเสียงจากคนไทยทั่วประเทศ ในการเลือกตั้งทั่วไป 6 ก.พ. เบ็ดเสร็จ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะเลือกรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทักษิณรอบ 2 โดยยึดหลักรัฐมนตรีใหม่ ต้องทำงานหนัก ทำงานเป็น ทำงานด้วยความโปร่งใส และยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
งานแรก รัฐบาลทักษิณรอบ 2 จะมุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจนของคนไทยทั่วประเทศ ผ่าน “คาราวานแก้จน” โดยนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้คนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือในโครงการนี้ ทำการบ้านล่วงหน้า เพื่อให้คาราวานทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะการแก้ปัญหาความยากจน จะเป็นพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง ไทย ให้ยกระดับขึ้นอีก
รัฐบาลทักษิณรอบ 2 ยังจะเดินหน้าแก้ปัญหาการศึกษาของชาติ เพื่อยกระดับความรู้คนไทยทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาตนเอง ท่ามกลางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ-ธุรกิจ จากทั่วโลก
นายกรัฐมนรียังยืนยัน รัฐบาลใหม่เตรียมแก้ปัญหาจราจรใน กทม.-ปริมณฑล เบ็ดเสร็จ ผ่านการสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดิน-ใต้ดิน (Mega Projects) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยงบประมาณรวมไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท
โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดสรรงบประมาณ-วิธีระดมทุน ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) ไว้แล้ว ไม่ให้เกิดปัญหากระทบการเงิน-การคลังของประเทศ โดยจะคิดค่าโดยสารไม่ให้เป็นภาระประชาชนมากเกินไป
ต้องพิจารณาค่าโดยสารอัตราที่ประชาชนส่วนใหญ่จ่ายได้ แล้วจึงจะดูว่าจะลงทุนเชิงพาณิชย์ หรือส่วนไหน ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลอุดหนุน ดูเศรษฐกิจมหภาค ว่าต้องนำเข้าหัวรถจักรมากน้อยแค่ไหน ใช้เงินจากไหน แลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรได้หรือไม่
พร้อมทำให้งบประมาณประเทศ สมดุลปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึงประมาณ 4-5 ปี รัฐบาลใหม่ยังจะมีเงินเหลือจัดงบประมาณกลางปี ซึ่งจะจัดสรรประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรให้โครงการหมู่บ้านขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ (SML Projects-Small- Medium- Large-Village Projects) รวมถึงงบฯ แก้ปัญหาความยากจน และงบพัฒนาจังหวัดต่าง ๆ
ยังมีโครงการท่อขนส่งน้ำเพื่อการชลประทาน 2 แสนล้านบาท โครงการสาธารณสุข ฯลฯ
นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เตรียมเงินสำหรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการอีก 2 ครั้ง ปี 2549 และ 2551 เพราะข้าราชการวันนี้ ได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเอกชนมาก ยิ่งเศรษฐกิจเติบโต เงินเดือนเอกชนก็สูงมาก
ส่วนโครงการนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV-Special Purpose Vehicle) เพื่อสนับสนุนการเกษตร พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า เป็นเครื่องมือการเงินใหม่ ภายใต้ระบบทุนนิยมปัจจุบัน ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มาก ลดช่องว่างการได้เปรียบเสียเปรียบ ระหว่างเกษตรกร-นักธุรกิจรายใหญ่
โดยรัฐบาลจะเป็นพี่เลี้ยง ก่อตั้ง SPV ให้ได้ ทำให้เกิดการลงทุนระยะยาวของคนจน โดยไม่มีภาวะกดดันการเงิน เช่น ทำสวนปาล์ม แทนที่จะกู้เงินทำ และรอ 4-5 ปี ผลผลิตจึงจะออกลูก
ระหว่างนั้น เกษตรกรจะไม่มีรายได้ ช่วงนี้ คนจนก็ต้องกู้นอกระบบ และสวนปาล์มอาจถูกยึด แต่ SPV เป็นตัวแก้ ระดมทุนจากคนทั่วไป โดยใช้กระแสเงินสดในอนาคตของการปลูกปาล์ม เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน พอครบ 4 ปี ปาล์มออกลูก ค่อย ๆ ทยอยใช้ เหมือนการตั้งโรงงาน ที่คนรวยกู้เงินจากธนาคาร เพราะมีหลักประกัน แล้วจึงเดินหน้าผลิตโดยโรงงาน แล้วค่อย ๆ ผ่อนใช้ดอกเบี้ย จนชำระเงินกู้ได้ในที่สุด
ส่วนการเดินหน้าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ พ.ต.ท. ทักษิณย้ำว่า ไม่ใช่การขายรัฐวิสาหกิจ แต่เป็นการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ให้รายย่อย สถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ รัฐบาลยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
รัฐวิสาหกิจระดมทุนโดยออกพันธบัตร-ขายหุ้นในตลาดฯ เป็นการกู้เงินโดยไม่ต้องมีรัฐบาลค้ำประกัน ใช้เงินจากตลาดทุนขยายธุรกิจ ไม่ต้องใช้เงินภาษีอากร รัฐบาลจะได้นำภาษีอากรพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ขณะที่พนักงานรัฐวิสาหกิจ ก็จะได้ประโยชน์
เขายกตัวอย่างกรณี ปตท. (PTT) หลังกระขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ขึ้นมาก มีมูลค่าการตลาด (Market Capitalization) หลายแสนล้านบาท ประเทศไม่มีหนี้สิน แต่มีทรัพย์สิน เพราะมีมูลค่าตลาดให้อ้างอิง สร้างความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจโดยรวม ค่าเงินบาทก็จะแข็งขึ้น
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับคนไทยทั่วประเทศ ที่จะผลักดันเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง ไทย ให้ก้าวสู่ระดับที่พัฒนาแล้วในที่สุด
พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเดินหน้าแก้ปัญหาคนไทยทุกภาคส่วนเบ็ดเสร็จอีก 4 ปีข้างหน้า หลังพรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 6 ก.พ. เบ็ดเสร็จ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันจะทุ่มเทการทำงาน โดยยึดผลประโยชน์ประเทศชาติ-ประชาชน เป็นหลัก ในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังได้คะแนนเสียงจากคนไทยทั่วประเทศ ในการเลือกตั้งทั่วไป 6 ก.พ. เบ็ดเสร็จ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะเลือกรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทักษิณรอบ 2 โดยยึดหลักรัฐมนตรีใหม่ ต้องทำงานหนัก ทำงานเป็น ทำงานด้วยความโปร่งใส และยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
งานแรก รัฐบาลทักษิณรอบ 2 จะมุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจนของคนไทยทั่วประเทศ ผ่าน “คาราวานแก้จน” โดยนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้คนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือในโครงการนี้ ทำการบ้านล่วงหน้า เพื่อให้คาราวานทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะการแก้ปัญหาความยากจน จะเป็นพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง ไทย ให้ยกระดับขึ้นอีก
รัฐบาลทักษิณรอบ 2 ยังจะเดินหน้าแก้ปัญหาการศึกษาของชาติ เพื่อยกระดับความรู้คนไทยทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาตนเอง ท่ามกลางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ-ธุรกิจ จากทั่วโลก
นายกรัฐมนรียังยืนยัน รัฐบาลใหม่เตรียมแก้ปัญหาจราจรใน กทม.-ปริมณฑล เบ็ดเสร็จ ผ่านการสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดิน-ใต้ดิน (Mega Projects) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยงบประมาณรวมไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท
โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดสรรงบประมาณ-วิธีระดมทุน ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) ไว้แล้ว ไม่ให้เกิดปัญหากระทบการเงิน-การคลังของประเทศ โดยจะคิดค่าโดยสารไม่ให้เป็นภาระประชาชนมากเกินไป
ต้องพิจารณาค่าโดยสารอัตราที่ประชาชนส่วนใหญ่จ่ายได้ แล้วจึงจะดูว่าจะลงทุนเชิงพาณิชย์ หรือส่วนไหน ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลอุดหนุน ดูเศรษฐกิจมหภาค ว่าต้องนำเข้าหัวรถจักรมากน้อยแค่ไหน ใช้เงินจากไหน แลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรได้หรือไม่
พร้อมทำให้งบประมาณประเทศ สมดุลปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึงประมาณ 4-5 ปี รัฐบาลใหม่ยังจะมีเงินเหลือจัดงบประมาณกลางปี ซึ่งจะจัดสรรประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรให้โครงการหมู่บ้านขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ (SML Projects-Small- Medium- Large-Village Projects) รวมถึงงบฯ แก้ปัญหาความยากจน และงบพัฒนาจังหวัดต่าง ๆ
ยังมีโครงการท่อขนส่งน้ำเพื่อการชลประทาน 2 แสนล้านบาท โครงการสาธารณสุข ฯลฯ
นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เตรียมเงินสำหรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการอีก 2 ครั้ง ปี 2549 และ 2551 เพราะข้าราชการวันนี้ ได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเอกชนมาก ยิ่งเศรษฐกิจเติบโต เงินเดือนเอกชนก็สูงมาก
ส่วนโครงการนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV-Special Purpose Vehicle) เพื่อสนับสนุนการเกษตร พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า เป็นเครื่องมือการเงินใหม่ ภายใต้ระบบทุนนิยมปัจจุบัน ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มาก ลดช่องว่างการได้เปรียบเสียเปรียบ ระหว่างเกษตรกร-นักธุรกิจรายใหญ่
โดยรัฐบาลจะเป็นพี่เลี้ยง ก่อตั้ง SPV ให้ได้ ทำให้เกิดการลงทุนระยะยาวของคนจน โดยไม่มีภาวะกดดันการเงิน เช่น ทำสวนปาล์ม แทนที่จะกู้เงินทำ และรอ 4-5 ปี ผลผลิตจึงจะออกลูก
ระหว่างนั้น เกษตรกรจะไม่มีรายได้ ช่วงนี้ คนจนก็ต้องกู้นอกระบบ และสวนปาล์มอาจถูกยึด แต่ SPV เป็นตัวแก้ ระดมทุนจากคนทั่วไป โดยใช้กระแสเงินสดในอนาคตของการปลูกปาล์ม เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน พอครบ 4 ปี ปาล์มออกลูก ค่อย ๆ ทยอยใช้ เหมือนการตั้งโรงงาน ที่คนรวยกู้เงินจากธนาคาร เพราะมีหลักประกัน แล้วจึงเดินหน้าผลิตโดยโรงงาน แล้วค่อย ๆ ผ่อนใช้ดอกเบี้ย จนชำระเงินกู้ได้ในที่สุด
ส่วนการเดินหน้าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ พ.ต.ท. ทักษิณย้ำว่า ไม่ใช่การขายรัฐวิสาหกิจ แต่เป็นการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ให้รายย่อย สถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ รัฐบาลยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
รัฐวิสาหกิจระดมทุนโดยออกพันธบัตร-ขายหุ้นในตลาดฯ เป็นการกู้เงินโดยไม่ต้องมีรัฐบาลค้ำประกัน ใช้เงินจากตลาดทุนขยายธุรกิจ ไม่ต้องใช้เงินภาษีอากร รัฐบาลจะได้นำภาษีอากรพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ขณะที่พนักงานรัฐวิสาหกิจ ก็จะได้ประโยชน์
เขายกตัวอย่างกรณี ปตท. (PTT) หลังกระขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ขึ้นมาก มีมูลค่าการตลาด (Market Capitalization) หลายแสนล้านบาท ประเทศไม่มีหนี้สิน แต่มีทรัพย์สิน เพราะมีมูลค่าตลาดให้อ้างอิง สร้างความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจโดยรวม ค่าเงินบาทก็จะแข็งขึ้น
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับคนไทยทั่วประเทศ ที่จะผลักดันเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง ไทย ให้ก้าวสู่ระดับที่พัฒนาแล้วในที่สุด