วังเครมลินในวันอังคาร (25 ก.พ.) ขานรับด้วยความยินดี ต่อสิ่งที่พวกเขาให้คำนิยมว่าท่าทีที่มีความสมดุลมากกว่าเดิมของสหรัฐฯ ในประเด็นยูเครน หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) รับรองญัตติที่ร่างโดยสหรัฐฯ สำหรับใช้จุดยืนที่เป็นกลางในความขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็คัดค้านที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ในญัตติประณามการทำสงครามในยูเครนของมอสโก
"เรามองว่า สหรัฐฯ กำลังใช้จุดยืนที่มีความสมดุลมากกว่าเดิม ซึ่งมีส่วนช่วยจริงๆ ในความพยายามต่างๆ ที่มีเป้าหมายคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินบอกกับพวกผู้สื่อข่าว "แน่นอนว่า เรายินดีกับสิ่งนี้ เราเชื่อว่าจุดยืนสมดุลดังกล่าวเป็นการส่งเสียงถึงความปรารถนาอย่างแท้จริงในการมีส่วนร่วมหาทางออก"
ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) สหรัฐฯ ไม่ประสบความสำเร็จในการคัดค้านญัตติหนึ่ง ที่เรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน แต่ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อเมริกาได้รับเสียงสนับสนุนสำหรับญัตติหนึ่งที่เรียกร้องสันติภาพ โดยปราศจากการกล่าวโทษใครในสงคราม
ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ คัดค้านญัตติหนึ่ง ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่สนับสนุนโดยยุโรป ในการประณามการทำสงครามในยูเครนของมอสโก ส่วนในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ทั้ง 2 ชาติ เห็นชอบญัตติหนึ่งที่หนุนหลังโดยอเมริกา เรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งอย่างรวดเร็ว โดยหลีกเลี่ยงตราหน้ารัสเซียในฐานะผู้รุกรานและไม่รับรองบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
ผลโหวตดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในวาระครบรอบ 3 ปีของสงคราม ตอกย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนจุดยืนอย่างฉับพลันของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
ขณะเดียวกัน ผลโหวตยังเผยให้เห็นถึงร่องรอยความแตกแยกระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาพันธมิตรทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ซึ่งต่างงดออกเสียงในญัตติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ผิดกับทางรัสเซียและจีน ที่ให้การสนับสนุนญัตติดังกล่าว
เปสคอฟ บอกว่าแม้ยุโรปยังไม่ได้ปรับท่าทีแบบเดียวกัน แต่จุดยืนของยุโรปก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ "สำหรับยุโรปแล้ว ถ้อยแถลงจากบรัสเซลส์และอื่นๆ ในนั้นรวมถึงเคียฟเมื่อวานนี้ พวกเขายังไม่ได้ส่งสัญญาณของความสมดุล แต่บางที บนพื้นฐานของผลลัพธ์การติดต่อระหว่างบรรดาชาติยุโรปกับอเมริกา ฝ่ายยุโรปอาจโน้มเอนเข้าหาจุดยืนที่สมดุลมากกว่าเดิมก็เป็นได้"
(ที่มา : รอยเตอร์/อัลจาซีราห์)