เอพี/เอเจนซีส์ - ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี จิมมี ไล ขึ้นศาลวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ยืนยันไม่ได้ร่างบัญชีดำคว่ำบาตรช่วยวอชิงตัน แต่รับลอกข้อความจากแผ่นกระดาษที่รับจากคนที่เชื่อเป็นตัวกลางทำเนียบขาว หลังวันพุธ (20 พ.ย.) ยืนยันไม่ได้ขออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ให้ออกมาตรการต่อฮ่องกงและจีนระหว่างประท้วงใหญ่ทั่วเกาะปี 2019
เอพีรายงานวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ว่า เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงอดีตผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีที่โดนปิด จิมมี ไล (Jimmy Lai) วัย 77 ปีขึ้นศาลฮ่องกงในคดีสมคบคิดกองกำลังต่างชาติ
การให้ปากคำสะท้อนถึงการสนทนาบน WhatsApp conversations ระหว่างไลและอดีตเจ้าหน้าที่บริหารหญิงระดับสูงของหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี Chan Pui-man
ทั้งนี้ เธอเป็น 1 ใน 6 ของอดีตผู้บริหารแอปเปิลเดลีที่ยอมรับผิดต่อการสมคบคิดกับไล่เพื่อเรียกร้องให้เกิดการคว่ำบาตรหรือการปิดกั้นหรือการเกี่ยวพันในความเคลื่อนไหวที่เป็นปรปักษ์ต่อฮ่องกงหรือจีน
ทนายความของไล สตีเวน ขว่าน (Steven Kwan) แสดงข้อความในศาลหลังก่อนหน้าในการไต่สวนได้กล่าวว่า ไลได้แนะนำหนังสือพิมพ์ให้เตรียมบัญชีคว่ำบาตรหลังผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้น "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้ลงนามในคำสั่งเพื่อต้องการลงโทษคนที่รัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่าได้ช่วยลิดรอนเสรีภาพพลเรือนฮ่องกง
ทั้งนี้ ไลในวันพฤหัสบดี (21) แถลงว่า เขาไม่ได้เขียนข้อความนั้นแต่แค่ก๊อบปี้ข้อความที่เขาได้รับมาจากบุคคลที่เขาสงสัยว่าเชื่อมโยงกับทำเนียบขาว
ไลกล่าวว่า เขาไม่ได้อ่านข้อความทั้งหมดอย่างละเอียดก่อนที่จะส่งต่อ อดีตผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีแสดงความเห็นว่า ข้อความมันดูต่างชาติมากสำหรับผม
ขว่านเผยว่าไลส่งข้อความไปยังนักการเมืองโปรประชาธิปไตยไม่กี่คนรวม Lee Wing-tat. และอดีตเจ้าของแอปเปิลเดลีเมื่อโดนถามว่า เขาตั้งใจจะทำบัญชีดำเช่นนั้นหรือไม่ ไลตอบกลับมาว่า “นั่นมันช่างน่าขบขัน”
ศาลฮ่องกงได้รู้ว่า ไลยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของเขาที่ทำข่าวต่างประเทศไม่ให้โจมตีทรัมป์ในปี 2020 เมื่อพวกเขาตั้งความหวังว่าทรัมป์จะทำบางอย่างเพื่อหยุดกฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกง
ไลกล่าวว่าเขาไม่ได้เข้าแทรกแซงในหนทางที่นักข่าวเหล่านั้นทำงานจนกระทั่งกฎหมายดังกล่าวใกล้เกิดขึ้น
เอพีรายงานว่า ทั้งนี้ก่อนหน้าในการขึ้นศาลฮ่องกงวันพุธ (20) ที่เขาได้ปรากฏตัวขึ้นศาล และโดนถามว่าเขาคิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์สามารถช่วยเหลืออย่างไร
และไลตอบกลับมาว่า การเรียกร้องต่อจีน การเรียกร้องต่อ สี จิ้นผิง หรืออะไรก็ตาม เขากล่าวว่าหนังสือพิมพ์ของเขาคงจะไม่สามารถอยู่ได้ภายใต้กฎหมายแต่เขาไม่เคยติดต่อกับทรัมป์
ในวันพุธ (20) เขาให้การเป็นภาษาอังกฤษว่า เขาได้ขอให้อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ แสดงการสนับสนุนฮ่องกงระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ในปี 2019 แต่เขากล่าวว่า เขาไม่ได้ขอรัฐบาลอเมริกันให้ใช้มาตรการใดๆ โดยกล่าวว่า “มันเกินอำนาจผม”
เอพีรายงานว่า คดีของไลถูกมองว่าเป็นมาตรการด้านเสรีภาพสื่อและความเป็นอิสระทางตุลาการในฮ่องกงซึ่งเป็นฮับทางการเงินของเอเซีย
โดยในทริปเดียวกันนี้ไลยังพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ และได้มีการหารือที่คล้ายกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง เขากล่าว
สตีเวน ขว่าน ได้ถามไลในศาลวันพุธ (20) ว่า เขาได้ขอให้สหรัฐฯ ทำอะไรบางอย่างในการหารือหรือไม่ และอดีตเจ้าของแอปเปิลเดลีตอบมาว่า “ไม่ได้ทำบางอย่างแต่กล่าวบางสิ่ง ออกมาพูดการสนับสนุนของตัวเองต่อฮ่องกง”
ทั้งนี้ ได้มีการชี้การพบปะของไลระหว่างรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และบรรดาวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ในกรกฎาคม ปี 2019 เพื่อหารือกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนฮ่องกงในเวลานั้นที่กลายเป็นชนวนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลไปทั่วเกาะ
โดยมีการชี้นิ้วว่า ไลต้องการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรจีนแผ่นดินใหญ่และบรรดาผู้นำฮ่องกงที่กวาดล้างการเคลื่อนไหว
ในวันพุธ (20) หนึ่งในคนที่ยืนรอกลางสายฝนเพื่อจะเข้าไปรับฟังคดีภายในห้องที่มีหลายสิบคนรวมถึงอดีตนักเขียนแอปเปิลเดลี วิลเลียม หว่อง (William Wong) ซึ่งเขากล่าวว่า เขาต้องการเตือนให้ไลรู้ว่า ชาวฮ่องกงไม่เคยลืมเขา
ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้ออกมาแสดงความวิตกต่อการจำคุกของไลต่อประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในการระชุมระหว่างการประชุม G20 ที่บราซิล