ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 1.5% ในวันพุธ (17 ส.ค.) พบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ ลดลงเกินคาด คลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์อ่อนแอเนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบ หลังธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) เผยแพร่รายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (17 ส.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงถึง 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ 425 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงราว 275,000 บาร์เรล
อีกสัญญาณของอุปสงค์แข็งแกร่ง สต๊อกเบนซินลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลเป็นอย่างมาก
รายงานระบุว่าตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แตะระดับ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้วยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต มีราคาถูกกว่าเบรนต์ค่อนข้างมาก จึงทำให้มันเป็นที่ดึงดูดใจผู้ซื้อต่างชาติมากกว่า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (17 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นักลงทุนทบทวนรายงาน minutes จากที่ประชุมเฟดประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน น้อยกว่าที่คาดหมายไว้ในทีแรก
ดาวโจนส์ ลดลง 171.69 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,980.32 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 31.16 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,274.04 จุด แนสแดค ลดลง 164.43 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,938.12 จุด
รายงาน minutes เผยให้เห็นด้วยว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดพบเห็นหลักฐานเพียงเล็กน้อยในช่วงปลายเดือนที่แล้วว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐฯ กำลังคลี่คลาย และมองว่ามันอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดหมายไว้ที่ภาวะเงินเฟ้อจะค่อยๆ จางหายไป
เฟดได้รับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 2.25% ในปีนี้ ในความพยายามควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และหลังจากเผยแพร่รายงาน minutes พวกนักลงทุนพยายามทบทวนรายงานดังกล่าว และเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกราว 0.50% ในเดือนกันยายน
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (17 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากแรงกดดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 13.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,776.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)