สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายแบนการนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคซินเจียงของจีน โดยอ้างถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และการบังคับใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์
ร่างกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Prevention Act) ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 428 ต่อ 1 เสียงเมื่อวันพุธ (8 ธ.ค.) โดยหลังจากนี้จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งหากผ่านการรับรองก็จะถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
กฎหมายฉบับนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า สินค้าทั้งหมดจากภูมิภาคซินเจียง ซึ่งมีรายงานว่าจีนได้สร้างเครือข่ายค่ายกักกันชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ถูกผลิตขึ้นโดยการบังคับใช้แรงงาน
แม้จีนจะยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้มีการละเมิดสิทธิชนกลุ่มน้อยในซินเจียง ทว่าสหรัฐฯ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งยังคงกล่าวหาปักกิ่งว่าดำเนินการ “ทำลายล้างเผ่าพันธุ์” คนที่นั่น
พรรครีพับลิกันวิจารณ์รัฐบาลไบเดน และพวกเดโมแครตในสภาคองเกรสว่าล่าช้าในการผลักดันกฎหมายนี้ เพราะเกรงจะไปกระทบกับนโยบายส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนของ ไบเดน เอง เนื่องจากซินเจียงนั้นเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่สำคัญของโลก
เมื่อวันจันทร์ (6) รัฐบาลไบเดนได้ประกาศบอยคอตไม่ส่งผู้แทนการทูตเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในเดือนหน้า โดยอ้างปมปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีนอีกเช่นกัน
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังได้โหวตรับรองญัตติอีก 2 ข้อที่เกี่ยวข้องกับจีนและเรื่องสิทธิ ได้แก่ ญัตติที่ว่า “คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ละเมิดพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยการไปร่วมมือกับรัฐบาลจีน” และญัตติ “ประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ” ที่จีนได้กระทำต่อชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ
ที่มา : รอยเตอร์