เอพี/รอยเตอร์ – เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงรับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกเมื่อวันอังคาร(18พ.ค)ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์กลางกรุงลอนดอน สหภาพยุโรปลงนามกับไฟเซอร์สั่งเพิ่ม 1.8 พันล้านโดส ขณะที่สิงคโปร์ประกาศวันนี้(20 พ.ค)ยอมยกเลิกจัดการประชุมความมั่นคงระดับภูมิภาคแชงกรี-ลา ไดอะล็อกเนื่องมาจากสถานการ์ณโควิด-19
เอพีรายงานวันนี้(20 พ.ค)ว่า พระฉายาลักษณ์ของเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ขณะที่พระองค์กำลังได้รับการถวายวัคซีนโควิด-19 โดสแรกถูกโพสต์บนแอกเคาน์โซเชียลมีเดียของพระองค์
“ในวันอังคารข้าพเจ้าได้รับวัคซีนโควิด-19โดสแรก” ดยุกแห่งเคมบริดจ์ตรัส และเสริมว่า “ถึงทุกท่านที่ได้ช่วยการให้ภูมิคุ้มกันแจกวัคซีน ขอขอบใจสำหรับทุกสิ่งที่พวกท่านได้ทำและยังคงทำต่อไป”
ทั้งนี้เจ้าชายวิลเลียมในวัย 38 พรรษาได้รับการถวายวัคซีนที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์กลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์วัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลลอนดอนได้เริ่มโครงการวัคซีนแห่งชาติแก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 34 ปีขึ้นไป ทั้งนี้โครงการแจกวัคซีนของอังกฤษได้เริ่มขยายลงไปยังกลุ่มประชาชนที่มีอายุต่ำลงนับตั้งแต่เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อธันวาคมปีที่ผ่านมา
เอพีรายงานว่าสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอื่นรวมสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ได้รับการถวายวัคซีนโควิด-19 ก่อนหน้าทางสาธารณะเพื่อเป็นการโปรโมทให้ประชาชนอังกฤษเข้ารับการฉีดเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้พบว่าอังกฤษดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่าสหรัฐฯในการที่สามารถดึงดูดประชาชนให้เข้ารับการฉีด โดยพบว่ามีประชาชนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ไม่ต่ำกว่า 70% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปแถลงว่า สหภาพยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงที่ 3 ในการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 กับบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคจำนวน 1.8 พันล้านโดสสำหรับตลอดทั้งปี 2023
ทางคณะกรรมาธิการยุโรปชี้ว่า ข้อตกลงจะเปิดโอกาสให้สามารถซื้อวัคซีนโควิด-19รุ่นปัจจุบันจำนวน 900 ล้านโดสของ และรุ่นการปรับปรุงเซรุ่มเพื่อให้เข้ากับสายพันธุ์กลายพันธุ์ที่เป็นทางเลือกสำหรับการจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 900 ล้านโดส
และเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งมอบล่าช้าทางอียูตั้งเงื่อนไขให้บริษัทยาต้องทำการผลิตวัคซีนภายในสหภาพยุโรปรวมไปถึงการได้มาซึ่งวัตถุดิบสำคัญต้องมาจากภายในภูมิภาค
และทางคณะกรรมาธิการกล่าวอีกว่า ข้อตกลงใหม่นี้จะทำให้มีการเปิดทางให้สหภาพยุโรปบริจาควัคซีนให้กับประเทศนอกสหภาพหรือบริจาคเข้าโครงการ COVAX ของสหประชาชาติได้
สถานการณ์โควิด-19ยังส่งผลกระทบไปถึงการจัดงานใหญ่ระดับภูมิภาค ผู้จัดงานการประชุมด้านความมั่นคงซัมมิตแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ประกาศวันพฤหัสบดี(20)ยกเลิกการจัดงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้าเนื่องมาจากวิกฤตการระบาดในสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ
รอยเตอร์รายงานว่า สถาบันระหว่างประเทศด้านการศึกษา ยุทธศาสตร์ IISS ( International Institute for Strategic Studies) ซึ่งเป็นเจ้าภาพได้เคยกำหนดวันงานระหว่างวันที่ 4 มิ.ย – 5 มิ.ย
โดยในแถลงการณ์ IISS กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเสื่อมทรามลง โดยมีเคสเพิ่มขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “ซึ่งในสิงคโปร์มีการเพิ่มขึ้นของเคสติดเชื้อในประเทศ และมีการเริ่มใช้มาตรการจำกัดเมื่อไม่นานมานี้ และการคาดการณ์ว่าอาจจะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นตามมา ส่งผลทำให้ไม่มีความแน่นอนเกิดขึ้น”
และชี้ว่า “เมื่อคำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่กล่าววมานี้ทำให้การจัดการประชุมตแชงกรี-ลา ไดอะล็อกแบบพบหน้านั้นไม่สามารถกระทำได้”
รอยเตอร์รายงานว่า การประชุมซัมมิตที่สิงคโปร์ในปีนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯคนใหม่ ลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin)มีกำหนดที่จะเข้าร่วมเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามทางสถาบันผู้จัดตั้งความหวังว่าจะสามารถกลับมาจัดงานซัมมิตได้ตามปกติอีกครั้งในปีหน้า