ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ “ไม่เชื่อ” ว่าวุฒิสภาจะลงมติถอดถอนอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากกรณีกล่าวปราศรัยยุยงให้ผู้สนับสนุนบุกเข้าไปก่อจลาจลในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. แต่ก็ย้ำว่าอย่างไรเสียกระบวนการไต่สวนอดีตผู้นำสหรัฐฯ ก็ “จะต้องเกิดขึ้น”
ไบเดน เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ CNN วานนี้ (25) ว่า วุฒิสภา “เปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่ผมเคยอยู่ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก" และตนเชื่อว่าแนวทางการตีความของวุฒิสภาอาจเปลี่ยนไปหาก ทรัมป์ อยู่ในตำแหน่งต่ออีกสัก 6 เดือน ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า เป็นไปได้ยากที่ญัตติถอดถอนจะได้เสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 เนื่องจากจะต้องมี ส.ว.รีพับลิกันร่วมมือด้วยถึง 17 คน
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ยื่นญัตติถอดถอนอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ เข้าสู่การไต่สวนของวุฒิสภาแล้วเมื่อวันจันทร์ (25 ม.ค.) โดย ส.ส.เดโมแครต 9 คนซึ่งจะทำหน้าที่เป็นอัยการไต่สวนคดีของทรัมป์ รวมถึงเลขานุการสภาผู้แทนฯ และตำรวจสภา (sergeant at arms) ได้เดินนำเอกสารญัตติถอดถอด ทรัมป์ ไปมอบให้แก่วุฒิสภา
ส.ส.เจมี แรสกิน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้จัดการญัตติถอดถอน (impeachment manager) ของสภาผู้แทนฯ ได้อ่านข้อกล่าวหาซึ่งระบุว่า “โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมร้ายแรงและประพฤติมิชอบ โดยปลุกปั่นยุยงให้มีการก่อความรุนแรงต่อรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา”
ส.ส.รีพับลิกัน 10 คนร่วมมือกับฝ่ายเดโมแครตโหวตรับรองญัตติถอดถอน ทรัมป์ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ทว่าในขั้นตอนของวุฒิสภานี้พรรคเดโมแครตจำเป็นจะต้องระดมเสียงจาก ส.ว. รีพับลิกันให้ได้อย่างน้อยถึง 17 คนจึงจะถอดถอน ทรัมป์ ได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในปัจจุบันที่ทั้ง 2 พรรคมีจำนวนที่นั่งวุฒิสมาชิก 50-50 เท่ากัน
ทรัมป์ ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ถูกสภาผู้แทนฯ โหวตถอดถอนถึง 2 ครั้ง และกำลังจะกลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกวุฒิสภาไต่สวนหลังพ้นตำแหน่งด้วย
วุฒิสภามีกำหนดเปิดการไต่สวนญัตติถอดถอน ทรัมป์ ในวันที่ 9 ก.พ. โดย ส.ว.ทั้ง 100 คนจะทำหน้าที่เป็นคณะผู้ไต่สวน และกระบวนการนี้อาจจะทำให้ ทรัมป์ ถูกประกาศให้เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครชิงประธานาธิบดีในอนาคต
สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนออกมาคัดค้านกระบวนการถอดถอน โดยบางคนอ้างว่าการไต่สวน “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” เนื่องจาก ทรัมป์ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว
“ดิฉันยังห่วงว่ามันจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และอาจจะเป็นการสร้างมาตรฐานในการเอาผิดกับพลเมืองธรรมดา (private citizen)” ส.ว. โจนี เอิร์นซ ให้สัมภาษณ์ “ถ้างั้นต่อไปเราก็ใช้วิธีนี้กับอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ใช่หรือไม่”
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำ ส.ว.เดโมแครตเสียงข้างมาก ออกมาปฏิเสธข้อโต้แย้งดังกล่าวเมื่อวานนี้ (25) “การอ้างทฤษฎีที่ว่าวุฒิสภาไม่สามารถไต่สวนอดีตเจ้าหน้าที่ได้ เท่ากับเปิดทางให้ประธานาธิบดีทุกคนหลบเลี่ยงโทษจำคุกได้อย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ”
แม้เวลานี้ทั้ง 2 พรรคจะครองที่นั่ง ส.ว. 50 คนเท่ากัน แต่ฝ่ายเดโมแครตยังถือว่ามีเสียงข้างมาก เนื่องจากรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่งอาจจะใช้สิทธิ์ออกเสียงชี้ขาดในบางประเด็นได้
ที่มา: รอยเตอร์, CNN