เอเจนซีส์ – ข้อตกลงระหว่างส่วนท้องถิ่นของประเทศหมู่เกาะโซโลมอนและบริษัทไชน่า แซม เอนเตอร์ไพรซ์ กรุ๊ป (China Sam Enterprise Group)ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะไม่นานหลังจากที่รัฐบาลหมู่เกาะได้สะบั้นความสัมพันธ์กับไต้หวันและหันไปหาปักกิ่งแทน แต่ทว่าล่าสุดทางรัฐบาลหมู่เกาะประกาศว่า สัญญาเช่าทั้งเกาะที่บริษัทจีนทำไว้นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ของฮ่องกงรายงานวันนี้(25 ต.ค)ว่า รัฐบาลประเทศหมู่เกาะโซโลมอนแถลงว่า สัญญาที่ถูกลงนามไว้โดยหนึ่งในจังหวัดของหมู่เกาะโซโลมอนในการอนุญาตให้เช่าเกาะตูลากี( Tulagi) ทั้งเกาะต่อบริษัทจีนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายและสมควรต้องถูกฉีกทิ้ง
ซึ่งรายละเอียดในสัญญาเช่าระยะยาวจังหวัดเซ็นทรัลนั้นถูกเปิดเผยต่อสาธารณะไม่นานหลังจากหมู่เกาะโซโลมอนได้เปลี่ยนแปลงควสัมพันธ์ทางการทูตจากไต้หวันไปคบกับปักกิ่งแทนในเดือนกันยายน ส่งผลทำให้ถูกสหรัฐฯตำหนิอย่างร้ายแรง
ซึ่งบริษัทไชน่า แซม เอนเตอร์ไพรซ์ กรุ๊ป (China Sam Enterprise Group)มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ใมนกรุงปักกิ่งพบว่าบริษัทแห่งนี้เป็นกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี การลงทุน และพลังงานถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1985 ที่มีรัฐบาลปักกิ่งเป็นเจ้าของ
ซึ่งจอห์น มิวเรีย (John Muria)อัยการสูงสุดประเทศหมู่เกาะโซโลมอนกล่าวว่าทางจังหวัดและบริษัทจีนไม่มีความสามารถในการบรรลุข้อตกลงประเภทนี้หากไม่มีรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนร่วมอยู่ด้วย
“ข้อตกลงไม่ได้ถูกตรวจสอบจากสำนักงานอัยการก่อนการลงนาม” มิวเรียกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่ออกมาในวันพฤหัสบดี(25) และดังนั้นนั้นทำให้ ข้อตกลง “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ไม่มีผลบังคับใช้และต้องถูกยกเลิกโดยมีผลในทันที
ทั้งนี้พบว่าจีนใช้ความพยายามในเวลาไม่กี่ปีมานี้ในการแผ่อิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองมายังภูมิภาคเขตแปซิฟิกซึ่งก่อนหน้านั้นเคยมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างแข็งแกร่งกับสหรัฐฯและพันธมิตรระดับภูมิภาคนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
และกลายเป็นผลลบกับไต้หวันที่จีนอ้างว่า เป็นแค่ระดับจังหวัดของจีนและไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความสัมพันธ์ระดับรัฐต่อรัฐได้ พบว่าในที่สุดจีนสามารถเอาชนะใจได้ความสัมพันธ์ 2 ชาติที่เคยเป็นอดีตพันธมิตรของไต้หวันในประเทศแถบแปซิฟิกคือ หมู่เกาะโซโลมอนและคิริบาส(Kiribati) ในเดือนที่แล้ว
ในข้อตกลงเช่าทั้งเกาะของบริษัทแซม กรุ๊ป ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 22 ก.ยที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสและให้อำนาจอย่างกว้างขวางแก่กลุ่มทุนจีนในการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างบนเกาะตูลากีและโดยพื้นที่รอบบริเวณ
ทั้งนี้พบว่าเกาะตูลากีแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางทหารเพราะเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯมาก่อนในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังเคยเป็นที่ตั้งอดีตเมืองหลวงของประเทศหมู่เกาะโซโลมอนก่อนที่จะย้ายไปยังเกาะกัวดาคาแนล(Guadalcanal) เหมือนเช่นในปัจจุบันนี้
ซึ่งในแถลงการณ์ที่โพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัทจีน ทางแซม กรุ๊ปกล่าวว่า คณะตัวแทนได้พบกับนายกรัฐมนตรี มนาสเซ โซกาวร์ (Manasseh Sogavare)ในช่วงต้นเดือนตุลาคมระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของคณะผู้แทนรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอน
และผลประโยชน์ของปักกิ่งบนหมู่เกาะโซโลมอนสร้างเสียงวิจารณ์ออกมาจากไต้หวันและสหรัฐฯที่กล่าวหาปักกิ่งว่า จะทำให้ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกต้องแบกรับภาระหนี้ที่ไม่มีความยั่งยืน
ในขณะที่เหยา หมิง(Yao Ming) ตำแหน่งอัคราชทูต(deputy chief of mission)ประจำสถานทูตจีนในปาปัวนิวกินีออกแถลงการณ์สั้นวันพุธ(23)ที่กรุงโฮนีอาราว่า ทางปักกิ่งจะก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นจำนวนหนึ่งรวมไปถึงสนามกีฬาให้เป็นเสมือน “ของขวัญประจำรัฐ”
และเหยายังกล่าวอีกว่า ทั้งสหรัฐฯและอังกฤษมีประวัติศาสตร์ที่ทำให้หมู่เกาะโซโลมอนอยู่ในหายนะทางการเงิน “จีนไม่ใช่เป็นประเทศที่เป็นหลุมกำดักทางการเงินอย่างแน่นอน” และชี้ว่า “คุณสามารถเห็นได้ชัดว่าประเทศไหนที่เป็นหลุมกับดักทางการเงิน..ไม่ใช่จีนแต่เป็นสหรัฐฯและอังกฤษ”
นอกจากนี้เหยายังกล่าวต่อว่า ปักกิ่งจะสนับสนุนให้บริษัทโทรคมนาคมหัวเว่ยทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มมากขึ้นภายในประเทศหมู่เกาะ
ทั้งนี้ออสเตรเลียซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในภูมิภาคก่อนหน้าจำกัดการขยายตัวของหัวเว่ยมาที่หมู่เกาะ