ฮ่องกงย้ำไม่ทิ้งแนวทางให้ปักกิ่งช่วย เมินไอเดียตัดอินเทอร์เน็ตปราบม็อบ

เอเจนซีส์ – ผู้นำฮ่องกงไม่ตัดความเป็นไปได้ในการขอความช่วยเหลือจากแผ่นดินใหญ่ หากสถานการณ์ในฮ่องกง “เลวร้ายมาก” แต่คงไม่ตัดอินเทอร์เน็ต ส่วนเรื่องมาตรการแบนหน้ากากที่ถูกวิจารณ์ว่า ล้มเหลวนั้นยังต้องรอพิสูจน์กันต่อไป ด้านซีวีทีวีของทางการจีนประกาศงดถ่ายทอดการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องเอ็นบีเอในจีนสัปดาห์นี้และเตรียมลงโทษเพิ่ม หลังสมาคมยัดห่วงอเมริกันถูกสภาคองเกรสส์ถล่ม จนต้องกลับลำสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้จัดการทีม ฮูสตัน ร็อกเก็ตส์ ที่ทวิตเชียร์ม็อบฮ่องกงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

ฮ่องกงเผชิญการประท้วงมานาน 4 เดือน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายพื้นที่กลายเป็นอัมพาตจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาปิดถนน โจมตีสถานีรถไฟใต้ดิน และสถานที่ราชการ เพื่อท้าทายการตัดสินใจของแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในการงัดกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ได้ใช้มานานครึ่งศตวรรษมาบังคับใช้ด้วยการแบนการสวมหน้ากากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ต.ค.)

ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันอังคาร (8 ต.ค.) ที่คนฮ่องกงกลับไปทำงานตามปกติหลังเทศกาลวันหยุดยาว ลัมแสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลยังสามารถรับมือกับปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ แต่หากสถานการณ์ “เลวร้ายมาก” คงไม่สามารถตัดทางเลือกใดๆ ที่อาจทำให้ฮ่องกงมีโอกาสอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงการขอความช่วยเหลือจากจีน

อย่างไรก็ตาม ลัมยืนยันว่าไม่ได้พบเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนเพื่อหารือ “กิจธุระ” ใดๆ ระหว่างเดินทางไปร่วมพิธีฉลอง 70 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ปักกิ่งเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา

ลัมถูกวิจารณ์กว้างขวางเรื่องการประกาศห้ามสวมหน้ากากในการชุมนุม ซึ่งกลายเป็นการปลุกเร้าให้คนฮ่องกงนับหมื่นออกไปเดินขบวนประท้วงใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ซึ่งในเรื่องนี้ ลัมชี้แจงว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าการแบนหน้ากากได้ผลหรือไม่

ผู้นำฮ่องกงเสริมว่า ยังไม่มีแผนออกกฎหมายใหม่ภายใต้อำนาจในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของ อิป กว๊อก-ฮิม สมาชิกคณะรัฐมนตรีและนักการเมืองที่สนับสนุนปักกิ่ง ในการตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อควบคุมการประท้วง แต่จะยึดมั่นกับเครื่องมือทางการเมือง กฎหมาย และนโยบาย รวมถึงการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกบางอย่าง

ในวันอังคารสถานีรถไฟใต้ดิน 13 แห่งยังคงปิดให้บริการหลังถูกโจมตีได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง บริษัทผู้ดำเนินการเผยว่า จะปิดให้บริการทั้งเครือข่ายในเวลา 20.00 น. ก่อนเวลาปิดทำการตามปกติ 4 ชั่วโมง

ลัมสำทับว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปฮ่องกงในช่วง 6 วันแรกของเดือนนี้หรือที่เรียกว่า วันหยุดโกลเด้นวีกนั้น ลดฮวบกว่า 50% ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าปลีก ร้านอาหาร การท่องเที่ยว และโรงแรม โดยมีผู้ได้รับผลกระทบราว 600,000 คน

ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจฮ่องกงแถลงว่า มีผู้ถูกจับกุมข้อหาละเมิดคำสั่งห้ามสวมหน้ากากล่าสุดรวม 77 คน และนับจากวันศุกร์ที่ผ่านมา มีร้านค้าและระบบสาธารณูปโภคกว่า 200 แห่งได้รับความเสียหายจากการประท้วง ขณะที่ตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาสลายม็อบ 367 ลูก

การประท้วงที่เริ่มต้นขึ้นจากความไม่พอใจร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ลุกลามเป็นวิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนในปี 1997 รวมทั้งเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดสำหรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2012

เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา กล่าวว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายในฮ่องกง จะส่งผลกระทบแง่ลบต่อการเจรจาการค้าอเมริกา-จีนเช่นเดียวกัน

วันเดียวกันนั้น สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวนมากวิจารณ์ว่า สมาคมบาสเก็ตบอลแห่งชาติ (เอ็นบีเอ) เห็นแก่เงินจนยอมอ่อนข้อให้จีนเกินไปด้วยการออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อทวิตสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกงของ ดารีล มอเรย์ ผู้จัดการทีมบาสเก็ตบอล ฮูสตัน ร็อกเก็ตส์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ทำให้รัฐบาลและชาวจีนจำนวนมากโกรธเกรี้ยว แถมปักกิ่งยังสั่งห้ามสถานีซีซีทีวีถ่ายทอดการแข่งขันของทีมนี้ในจีน ขณะที่บรรดาสปอนเซอร์จีนพากันถอนการสนับสนุนทีมนี้เช่นเดียวกัน

แรงกดดันจากคองเกรสส์ทำให้ อดัม ซิลเวอร์ ประธานบริหารเอ็นบีเอ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโดระหว่างอยู่ที่โตเกียวเมื่อวันจันทร์ ยืนยันว่า เอ็นบีเอให้การสนับสนุนสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นของมอเรย์ แม้เจ้าตัวออกมาขอโทษจีนและลบทวิตดังกล่าวแล้ว

ขณะเดียวกัน ประธานบริหารเอ็นบีเอยอมรับว่า รัฐบาลและธุรกิจจีนมีสิทธิ์ตอบโต้ต่อทวิตของมอเรย์ และจากประสบการณ์ยาวนานในเอ็นบีเอ เขารู้ว่า ปัญหาแบบนี้ต้องใช้เวลาเยียวยานาน

ซิลเวอร์ที่มีกำหนดเดินทางไปจีนในสัปดาห์นี้ยังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบทางการเงินต่อร็อกเก็ตส์และเอ็นบีเอในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่สุดนอกอเมริกาอย่างชัดเจน

ท่าทีล่าสุดของซิลเวอร์ทำให้สถานีซีซีทีวีของทางการจีนออกแถลงการณ์ในวันอังคารว่า การท้าทายอธิปไตยแห่งชาติและเสถียรภาพทางสังคม ไม่อยู่ในบริบทของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ดังนั้น สถานีจะระงับแผนถ่ายทอดเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลของเอ็นบีเอที่จะจัดในจีนสัปดาห์นี้ รวมทั้งจะทำการสอบสวนความร่วมมือและการสื่อสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเอ็นบีเอทันที

ขณะเดียวกัน โกลบัลไทมส์ หนังสือพิมพ์แนวชาตินิยมที่เป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เตือนบริษัททั่วโลกว่า สิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนและประเด็นอ่อนไหวอื่นๆ อาจต้องแลกด้วยการเข้าถึงตลาดจีน