เอเจนซีส์ – ทีมงานเกาหลีเหนือ-อเมริกา วอล์กเอาต์จากห้องประชุมเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) โดยเปียงยางโทษวอชิงตันเป็นฝ่ายทำให้การเจรจาล่ม ขณะที่สหรัฐฯ ยืนยันการหารือเป็นไปด้วยดี พร้อมรับคำเชิญสวีเดนฟื้นการเจรจาในสองสัปดาห์
การเจรจาที่จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมนอกกรุงสต็อกโฮล์มของสวีเดน ถือเป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกนับจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ พบกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในเดือนมิถุนายนและตกลงฟื้นการเจรจา ที่ชะงักหลังซัมมิตล่มในเดือนกุมภาพันธ์ที่เวียดนาม
คิม มยอง กิล ผู้นำทีมเจรจาเกาหลีเหนือ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในสต็อกโฮล์มเมื่อวันเสาร์ว่า การเจรจาไม่เป็นไปตามที่หวังและสุดท้ายล่มโดยปราศจากผลลัพธ์ ทั้งหมดนี้เนื่องจากอเมริกาไม่เลิกทัศนคติแบบเดิม อีกทั้งไม่มีข้อเสนอใหม่ๆ มาหารือ และไม่มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจา
คิมสำทับว่า ตอนนี้เกาหลีเหนือมาถึงทางแยกระหว่างการเจรจากับการเผชิญหน้า การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์ยังเป็นไปได้ หากอุปสรรคทั้งหมดที่คุกคามความปลอดภัยและพัฒนาการของเกาหลีเหนือได้รับการสะสางอย่างสมบูรณ์และปราศจากข้อสงสัย
มอร์แกน ออร์เตกัส โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การแสดงความคิดเห็นของคิมไม่ใช่เนื้อหาหรือสาระหลักในการหารือนาน 8 ชั่วโมงครึ่งที่สวีเดน วอชิงตันตอบรับคำเชิญของสวีเดนในการหารือเพิ่มเติมกับเปียงยางใน 2 สัปดาห์หน้า
ออร์เตกัสยืนยันว่า วอชิงตันนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์และการหารือเป็นไปด้วยดี และอเมริกากับเกาหลีเหนือไม่สามารถลบล้างสงครามและการเป็นปฏิปักษ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ดำเนินมาถึง 70 ปีภายในการเจรจาเพียงวันเดียว
ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสวีเดนไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเชิญทั้งสองฝ่ายหารือรอบใหม่ หรือเปิดเผยว่า เปียงยางรับคำเชิญหรือไม่
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเยือนยุโรปว่า ยังคงมีความหวังว่า การเจรจากับเกาหลีเหนือจะมีความคืบหน้า
เจนนี ทาวน์ บรรณาธิการจัดการของ 38 นอร์ธ องค์กรในวอชิงตันที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ แสดงความเห็นว่า เปียงยางอาจคาดหวังสูงเกินไปว่าการปลด จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์ที่มีแนวทางสายเหยี่ยว จะทำให้อเมริกามีข้อเสนอที่ยืดหยุ่นขึ้น แต่ในความเป็นจริงคือ ข้อเรียกร้องพื้นฐานของทั้งสองฝ่ายยังต่างกันมาก และมีความเต็มใจในการแลกเปลี่ยนระหว่างกันน้อยมาก
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้มองว่า การประชุมที่สวีเดนถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ และหวังว่าอเมริกากับเกาหลีเหนือจะรักษาโมเมนตัมในการเจรจาต่อไป
นับจากเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พยายามโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจาแต่ไร้ผล จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วที่เปียงยางตกปากรับคำปุบปับ ก่อนลุกขึ้นมาทดสอบขีปนาวุธพิสัยสั้นจากเรือดำน้ำในวันรุ่งขึ้น (2 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นการยั่วยุชัดเจนที่สุดนับจากที่เปียงยางเริ่มการเจรจากับวอชิงตันเมื่อปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุเกาหลีเหนือมักใช้วิธีทางการทูตควบคู่กับการทหารเพื่อกดดันคู่เจรจา และอาจเชื่อว่าระบบขีปนาวุธล่าสุดช่วยให้ตนเองได้เปรียบมากขึ้น
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน แลกเปลี่ยนสาส์นกับผู้นำเปียงยาง ในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เพื่อยืนยันสัมพันธภาพระหว่างกันเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า สีที่ได้พบคิม 5 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า ตนและคิมบรรลุฉันทามติสำคัญหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งนำพาจีนและเกาหลีเหนือไปสู่ประวัติศาสตร์ยุคใหม่