‘ทรัมป์’ ซัดเดโมแครตจ้องถอดถอนเท่ากับก่อ ‘รัฐประหาร’

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (1 ต.ค.) ว่าความพยายามของพรรคเดโมแครตที่จะถอดถอนตนนั้นเทียบได้กับการก่อ ‘รัฐประหาร’

คำประณามจากผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้น หลังจาก ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศจะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กระทรวง 5 คนเข้าให้การต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้เปิดการไต่สวนกรณีที่ ทรัมป์ ใช้รัฐบาลยูเครนขุดคุ้ยความผิดของ โจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญในศึกชิงผู้นำทำเนียบขาวปี 2020

“ยิ่งผมรับรู้ข้อมูลมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่การถอดถอน แต่เป็นการรัฐประหาร” ทรัมป์ ทวีตข้อความ

“นี่คือการช่วงชิงอำนาจไปจากประชาชน รวมถึงมองข้ามคะแนนเสียง, เสรีภาพ, บทแก้ไขรัฐธรรมนูญบทที่ 2 (Second Amendment), ศาสนา, การทหาร, กำแพงกั้นชายแดน และสิทธิอื่นๆ ที่พระเจ้าได้มอบให้แก่พวกเขา”

พอมเพโอ วิจารณ์คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎร 3 ชุดที่เปิดการไต่สวน ทรัมป์ ว่า “มีเจตนาข่มขู่คุกคาม และเลือกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ”

ส.ส.เดโมแครตออกมาตำหนิ พอมเพโอ ว่าพยายาม “ขัดขวาง” กระบวนการสอบสวน และได้นัดสัมภาษณ์นักการทูตอเมริกันอย่างน้อย 2 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณียูเครน

สภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากได้เริ่มกระบวนการถอดถอน ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังมี ‘ผู้เปิดโปง’ (whistleblower) รายหนึ่งร้องเรียนว่า ทรัมป์ โทรศัพท์ไปกดดันประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนให้ช่วยตรวจสอบ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีในยุค บารัค โอบามา โดยหวังจะได้ข้อมูลทำลายชื่อเสียงผู้สมัครประธานาธิบดีตัวเต็งของพรรคเดโมแครต

ผู้นำส.ส.เดโมแครต 3 คน ได้แก่ แอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร, เอเลียต เอนเกิล ประธานคณะกรรมการฝ่ายกิจการต่างประเทศ และ เอไลจาห์ คัมมิงส์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม เตรียมออกหมายเรียกให้ พอมเพโอ และ รูดี จูลิอานี ทนายส่วนตัวของทรัมป์ ส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณียูเครนทั้งหมด และจะเรียกนักการทูตอีก 5 คนเข้าให้ข้อมูลด้วย

“ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางและเปิดโปงความพยายามข่มขู่นักการทูตมืออาชีพที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของผม” พอมเพโอ กล่าว พร้อมระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบขาวมีสิทธิ์สั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คนเปิดเผยข้อมูลอย่างจำกัด

อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เคิร์ท โวลเกอร์ อดีตผู้แทนพิเศษสำหรับกิจการยูเครน จะเข้าให้การต่อคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (3) ส่วน มารี โยวาโนวิตช์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครน ก็จะเข้าให้การแบบปิดลับในวันที่ 11 ต.ค.

โวลเกอร์ เคยได้รับการร้องขอจากทนายของ ทรัมป์ ให้ช่วยกดดัน เซเลนสกี เรื่องไบเดน ส่วน โยวาโนวิตช์ เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งทูตเมื่อต้นปีนี้ โดยว่ากันว่าเป็นเพราะเธอไม่ยอมทำตามคำสั่ง

ทรัมป์ ระบุเมื่อวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่า ทำเนียบขาวกำลังพยายามสืบหาตัวตนของผู้เปิดโปงรายนี้ ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายสหรัฐฯ ขณะที่นักการเมืองทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกันออกมาเตือนประธานาธิบดีว่าอย่าได้คิดข่มขู่หรือแฉตัวตนของผู้เปิดโปง ซึ่งมีรายงานว่าเป็นนักวิเคราะห์ของซีไอเอ