เอเอฟพี - โมฮัมเหม็ด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่นิวยอร์กแล้วในตอนเช้ามืดวันศุกร์(20ก.ย.) เพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเขาอาจไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าเข้าสหรัฐฯ
"รัฐมนตรีต่างประเทศ @JZarif กำลังออกเดินทางไปนิวยอร์กตอนเช้ามืดวันศุกร์ เพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 74" อับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเขียนบนทวิตเตอร์ในวันพฤหัสบดี(19ก.ย.)
"ปกติแล้ว รัฐมนตรีจะออกเดินทางก่อนประธานาธิบดี 1 หรือ 2 วัน" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุ ซึ่งดูเหมือนเป็นการยืนยันว่าทั้งตัวประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ต่างก็ได้รับอนุมัติวีซ่าสำหรับเดินทางเข้าสหรัฐฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานหนึ่งวันก่อนหน้านี้ว่า ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านและคณะผู้แทนของเขา อาจจำเป็นต้องงดเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน หากสหรัฐฯไม่ออกวีซ่าให้
โดยทั่วไปแล้วในฐานะรัฐบาลเจ้าภาพ สหรัฐฯมีพันธกรณีต้องออกวีซ่าแก่คณะผู้แทนทูตประเทศต่างๆซึ่งจะมาปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานใหญ่ของยูเอ็น อย่างไรก็ตามสำหรับ ซารีฟ ในฐานะทูตสูงสุดของอิหร่านนั้น ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติบอกว่าองค์กรโลกแห่งนี้ได้ติดต่อประสานงานกับสหรัฐฯ เพื่อคลี่คลายปัญหาวีซ่าที่ค้างคาทั้งหมด ที่สัมพันธ์กับเหล่าคณะผู้แทนของชาติต่างๆ
สหรัฐฯและอิหร่านติดหล่มแห่งการเผชิญหน้ากันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีก่อน ครั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 แล้วกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานรอบใหม่ พร้อมดำเนินนโยบายกดดันอิหร่านขั้นสูงสุด
อิหร่านตอบโต้ด้วยการค่อยๆลดระดับการปฏิบัติตามพันธสัญญาในข้อตกลงนิวเคลียร์ประวัติศาสตร์ ซึ่งพวกเขายอมจำกัดโครงการนิวเคลียร์แลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
ในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายล่าสุด สหรัฐฯกล่าวหาอิหร่านว่าเป็นคนโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์(14ก.ย.) เช่นเดียวกับอยู่เบื้องหลังเหตุจู่โจมเรือบรรทุกน้ำมันหลายต่อหลายครั้งในอ่าวเปอร์เซียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้อิหร่านยืนกรานปฏิเสธความเกี่ยวข้อง