xs
xsm
sm
md
lg

“นิสสัน” ฉาวอีก! คดี “คาร์ลอส โกส์น” ยังค้างคา ซีอีโอคนใหม่ก็ต้องลาออก มัวหมองเรื่องโบนัส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฮิโรโตะ ไซกาวะ ของ นิสสัน มอเตอร์ พูดในการประชุมแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ ในเมืองโยโกฮามา เมื่อวันจันทร์ (9 ก.ย.) โดยเขาบอกว่าจะลาออกจากบริษัทตั้งแต่วันที่ 16 เดือนนี้ ภายหลังยอมรับว่าเขาได้รับโบนัสสูงเกินกว่าที่สมควรจะได้รับ </i>
เอเอฟพี - ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฮิโรโตะ ไซกาวะ ของ นิสสัน มอเตอร์ ประกาศในวันจันทร์ (9 ก.ย.) ว่าเขาจะลงจากตำแหน่งในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้วิกฤตการณ์ของบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก ขณะที่ยังอยู่ในอาการโซซัดโซเซจากกรณีการจับกุมและการขับไล่ไสส่ง คาร์ลอส โกส์น อดีตนายใหญ่คนดัง ด้วยข้อหาประพฤติมิชอบในทางการเงิน

เรื่องนี้ถือว่าเป็นการตีกระหน่ำอย่างแรงอีกครั้งใส่นิสสัน ซึ่งกำลังเผชิญปัญหายอดขายตกฮวบ และถูกบังคับให้ปลดคนลดตำแหน่งงาน นับตั้งแต่การจับกุมโกส์นด้วยข้อกล่าวหาซุกซ่อนเงินเดือนผลตอบแทนของเขาโดยไม่แจ้งเอาไว้ในเอกสารอย่างเป็นทางการที่ต้องส่งให้ผู้ถือหุ้น

ไซกาวะ แถลงในวันจันทร์ว่า เขาจะออกจากบริษัทในวันที่ 16 กันยายน โดยเป็นผลจากการสอบสวนเรื่องที่ว่าได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายโบนัสให้แก่ผู้บริหารของนิสสัน ทำให้เขาได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนสูงเกินกว่าที่สมควร

ไซกาวะนั้นต้องสงสัยว่า ได้เงินเดือนผลตอบแทนเกินสมควรไป 47 ล้านเยน (440,000 ดอลลาร์) ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายโบนัสซึ่งระบุว่า กรรมการบริหารของบริษัทจะได้รับโบนัส ถ้าราคาหุ้นบริษัทของพวกเขาขึ้นสูงเกินกว่าระดับที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้

พวกเจ้าหน้าที่ของนิสสันพยายามเน้นย้ำว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เขาไม่ควรมอบหมายภาระหน้าที่พิจารณาจ่ายโบนัสนี้ให้แก่ผู้บริหารระดับล่าง

“เมื่อพูดกันถึงที่สุดแล้ว การดำเนินการนี้ซึ่งสมควรที่จะกระทำโดยตัวประธานเอง กลับถูก … มอบหมายให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นการละเมิกกฎระเบียบของบริษัท” มุโตะ นางาอิ กรรมการบริหารคนหนึ่งของบริษัทกล่าว

ไซกาวะยอมรับว่าได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้แก่ฝ่ายเลขานุการคนหนึ่งของบริษัท และเขา “ไม่ได้ภาคภูมิใจ” กับเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่านี่ไม่ได้เป็นการประพฤติมิชอบในลักษณะเดียวกับที่ โกส์น ถูกกล่าวหา

เขาย้ำว่า เรื่องของเขานั้น “แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการกระทำความผิดอย่างตั้งใจที่ได้ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว” ระหว่างการสอบสวนเป็นการภายในของนิสสันเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบของ โกส์น และ เกร็ก เคลลี ผู้บริหารชาวอเมริกันซึ่งเป็นลูกน้องมือขวาของโกส์น

ทางด้านคณะกรรมการบริหารของนิสสันได้แถลงว่า แผนการจ่ายโบนัสไปตามราคาหุ้นที่สูงขึ้นนี้ เวลานี้ได้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ ยาสุฮิโร ยามาอุชิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการคนปัจจุบันจะเข้ารักษาการในตำแหน่งซีอีโอ ในวันที่ 16 กันยายน เมื่อไซกาวะออกจากบริษัทอย่างเป็นทางการ และนิสสันคาดหวังว่าจะสามารถหาผู้มาดำรงตำแหน่งแทนอย่างถาวรได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
<i>ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฮิโรโตะ ไซกาวะ ของ นิสสัน มอเตอร์ ขณะมาถึงที่ประชุมแถลงข่าวในวันจันทร์ (9 ก.ย.) </i>
เจอข้อหารับเงินเดือนผลตอบแทนเกินสมควร

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายนี้ ในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงยกเครื่องครั้งใหญ่ ด้วยความมุ่งหมายที่จะทำให้คุณภาพด้านธรรมาภิบาลมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นภายหลังเกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องโกส์นแล้ว

ในเดือนมิถุนายน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของนิสสันมีมติเห็นชอบมาตรการหลายๆ ประการ เป็นต้น การจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ 3 ชุด ซึ่งจะรับผิดชอบเรื่องการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส, ประเด็นเรื่องการจ่ายเงินเดือนผลตอบแทน, และการสอบบัญชี

นอกจากนั้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการบริหารบริษัท 11 คน เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างบริษัทกันใหม่ โดยในจำนวนนี้มีทั้งไซกาวะ และ 2 คนที่เป็นผู้บริหารของบริษัทเรโนลต์แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิสสันในปัจจุบัน

การปฏิรูปเหล่านี้มุ่งหมายที่จะทำให้นิสสันอยู่บนรากฐานที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ภายหลังการจับกุมโกส์น ซึ่งได้ถูกปลดออกจากบทบาทการนำทั้งหลายทั้งในนิสสันและในเรโนลต์

โกส์นนั้นกำลังรอคอยการถูกนำตัวขึ้นฟ้องศาลในญี่ปุ่น ด้วยข้อหารายงานเงินเดือนผลตอบแทนของตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงไปเป็นล้านๆ ดอลลาร์ และมีการใช้เงินทุนของบริษัทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว

โกส์นนั้นปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้น และกล่าวหาว่าพวกผู้บริหารของนิสสันคัดค้านแผนการของเขาที่จะนำเอาบริษัทไปบูรณาการกับเรโนลต์ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นอีก จึงวางกลอุบายเล่นงานเขา

“ด้านมืด”

ไซกาวะ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของโกส์น ได้หักเลี้ยวกลับหันมาเล่นงานอดีตอาจารย์ภายหลังจากโกส์นถูกจับกุม โดยเขาพูดถึง “ด้านมืด” ในระหว่างที่โกส์นครองตำแหน่งอยู่ รวมทั้งกล่าวหาว่าผู้บริหารชื่อดังที่สุดรายหนึ่งในวงการรถยนต์ของโลกผู้นี้ มีอำนาจชนิดที่ไร้การตรวจสอบทัดทานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นการเปิดทางให้เขากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาโดยไม่ถูกตรวจตรา

ทว่าตัวไซกาวะเองก็ถูกบีบคั้นกดดันในขณะที่เรื่องอื้อฉาวของโกส์นถูกแฉโพย โดยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเขาถูกเรียกร้องให้ลาออกไป เนื่องจากเขาถูกมองว่าเป็นผู้ร่วมมือใกล้ชิดมากกับโกส์น

และขณะที่เขาต้านทานเสียงเรียกร้องให้ลงจากตำแหน่งในทันที แต่เขาก็พูดเสมอว่าวางแผนจะส่งมอบอำนาจบังคับบัญชาให้ผู้บริหารรุ่นต่อไป หลังจากนิสสันกลับเข้าร่องเข้ารอยแล้ว

กรณีอื้อฉาวคาร์ลอส โกส์น ถือเป็นความวิบัติสำหรับนิสสันอย่างแท้จริง โดยที่เมื่อเดือนกรกฎาคม บริษัทต้องประกาศว่าผลกำไรสุทธิได้ตกฮวบลงเกือบๆ 95% ในช่วงไตรมาสระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2019 และบริษัทจำเป็นต้องตัดลดตำแหน่งงานทั่วโลกลง 12,500 ตำแหน่ง

บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับเรโนลต์ ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตร 3 ฝ่าย ซึ่งอีกรายหนึ่งคือ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยที่โกส์นคือผู้ก่อตั้งกลุ่ม 3 พันธมิตรนี้ขึ้นมา
กำลังโหลดความคิดเห็น