เอเอฟพี - คาเธ่ย์ แปซิฟิค แถลงในวันพุธ (4 ก.ย.) ว่าจอห์น สโลซาร์ ประธานบริษัทกำลังจะลาออกผ่านการเกษียณอายุ ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงคนล่าสุดที่ออกจากสายการบินที่เต็มไปด้วยปัญหาแห่งนี้ หลังจากคาเธ่ย์ แปซิฟิก ก่อความขุ่นเคืองแก่จีน ด้วยท่าทีสนับสนุนผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยในฮ่องกง
สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสื่อมวลชนแห่งรัฐจีนและบรรดาเจ้าหน้าที่ปักกิ่ง ออกมาตำหนิบริษัทแห่งนี้อย่างรุนแรง สืบเนื่องจากพนักงานบางส่วนจากทั้งหมดราวๆ 27,000 คนได้เข้าร่วมหรือเข้าข้างพวกผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่กำลังสั่นคลอนฮ่องกงอยู่ในเวลานี้
ในถ้อยแถลงที่โพสต์บนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ทางคาเธ่ย์ แปซิฟิค เปิดเผยว่า สโลซาร์ วัย 63 ปี ได้ลาออกจากตำแหน่ง และ แพทริก ฮีลลี วัย 53 ปี ผู้บริหารของสไวร์แปซิฟิค บริษัทที่ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินจะเข้ามาทำหน้าที่แทน
“การลาออกของเขาสืบเนื่องจากการเกษียณอายุ” ถ้อยแถลงระบุ พร้อมบอกต่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นต้นไป หลังเสร็จสิ้นการประชุมบอร์ดบริหารของบริษัท
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รูเพิร์ต ฮอกก์ ก็เพิ่งลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) พร้อมกับผู้บริหารระดับสูงอีกคน หลังคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านการบินของจีนสั่งแบนพนักงานของสายการบินที่สนับสนุนผู้ประท้วง จากการทำงานบนเที่ยวบินต่างๆ ที่บินผ่านน่านฟ้าของพวกเขา และหลังจากสื่อมวลชนแห่งรัฐได้ยุยงให้บอยคอตสายการบินแห่งนี้ในตลาดแผ่นดินใหญ่อันสำคัญยิ่ง
พฤติกรรมต่างๆ ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ทำให้เป็นที่เข้าใจว่ากำลังเข้าข้างพวกผู้ประท้วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องและนักบินบางส่วน เข้าร่วมการชุมนุมและผละงานประท้วง
ในเดือนกรกฎาคม สโลซาร์ เน้นย้ำว่าเขาไม่ต้องการบอกกับพนักงานหลายหมื่นคนว่าควรมีแนวคิดอย่างไรหรือควรยึดถือมุมมองทางการเมืองแบบไหน อย่างไรก็ตาม หลังจีนแสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างเปิดเผยและขู่ขึ้นบัญชีดำสายการบินแห่งนี้จากตลาดแผ่นดินใหญ่ ทำให้คาเธ่ย์ แปซิฟิค ต้องกลับลำกะทันหัน
คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ออกประกาศผู้บริหารหลายฉบับ แสดงจุดยืนยันสนับสนุนพวกผู้นำฝักใฝ่จีนของฮ่องกง พร้อมทั้งไล่ออกพนักงานอย่างน้อย 4 คนและสั่งพนักงานไม่ให้เข้าร่วมผละงานหรือการประท้วงที่ผิดกฎหมายใดๆ
ทั้งนี้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งซึ่งเป็นแกนนำของสหภาพ เผยว่าเธอถูกไล่ออกโดยไม่มีคำชี้แจงใดๆ
พวกนักวิเคราะห์มองว่าการกวาดล้างทางการเมืองภายในคาเธ่ย์ แปซิฟิค อาจช่วยยับยั้งไม่ให้ถูกจีนคว่ำบาตรเพิ่มเติม แต่ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์เห็นว่าอีกด้านหนึ่งการทำตามแรงกดดันของปักกิ่ง อาจทำให้ชื่อเสียงในฐานะบริษัทฮ่องกงของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ต้องแปดเปิ้อน