เอเอฟพี - สหรัฐฯในวันอังคาร(3ก.ย.) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรโครงการอวกาศของอิหร่าน ระบุเหตุจรวดนำส่งระเบิดคาฐานปล่อยเมื่อเร็วๆนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเตหะรานกำลังทำงานด้านขีปนาวุธ
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลงว่า "สหรัฐฯจะไม่ยอมให้อิหร่านใช้โครงการส่งจรวดสู่ห้องอวกาศ ปิดซ่อนอำพรางเพื่อพัฒนาโครงการขีปนาวุธโดยเด็ดขาด" เขากล่าว "ความพยายามปล่อยจรวดสู่ห้วงอวกาศเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมของอิหร่าน ตกอย้ำถึงภัยคุกคามเร่งด่วน"
พอมเพโอระบุต่อว่าดังนั้นสหรัฐฯจึงกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อสำนักงานอวกาศของอิหร่าน เช่นเดียวกับศูนย์วิจัยที่เกี่ยวข้อง 2 แห่ง
ภายใต้คำสั่งนี้พลเมืองและผู้พำนักอาศัยสหรัฐฯทุกรายจะถูกลงโทษทางอาญาในกรณีติดต่อและทำงานร่วมกับโครงการอวกาศของอิหร่าน
"มาตรการที่กำหนดนี้จะเป็นคำเตือนถึงประชาคมนักวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ ว่าการร่วมมือใดๆกับโครงการอวกาศของอิหร่านอาจกลายเป็นการส่งเสริมศักยภาพของอิหร่านในการพัฒนาระบบส่งอาวุธนิวเคลียร์"
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(30ก.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตภาพถ่ายทางอากาศที่อ้างว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดในการยิงจรวดบรรทุกดาวเทียมซาฟีร์ ที่ศูนย์อวกาศจังหวัดเซมนาน พร้อมปฏิเสธว่าอเมริกาไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ภาพถ่ายขาวดำดังกล่าวเผยให้เห็นควันสีดำจากการระเบิด ณ สถานที่ทดสอบจรวดภายในศูนย์อวกาศทางตอนเหนือของอิหร่าน รวมถึงโครงสร้างสะพานเครน (gantry) และฐานปล่อยจรวด (mobile erector launcher) ที่ได้รับความเสียหาย
ทวีตดังกล่าวเรียกความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยไม่ใช่เพียงแค่คำปฏิเสธของทรัมป์เท่านั้น แต่มันยังก่อให้เกิดคำถามอื้ออึงว่าผู้นำสหรัฐฯ กำลังเผยความลับด้านข่าวกรองของอเมริกาให้ศัตรูรับรู้หรือไม่
ในขณะที่ทรัมป์มุ่งเน้นปฏิเสธความเกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ทางพอมเพโอชี้ว่าความพยายามส่งจรวดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามจากอิหร่าน
โฆษกรัฐบาลอิหร่านเมื่อวันจันทร์(2ก.ย.) ยืนยันข่าวเกิดระเบิดที่ฐานปล่อยดาวเทียมแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศ พร้อมกล่าวโทษว่ามันเป็นผลจากเหตุขัดข้องทางเทคนิค