เอเอฟพี – เกิดเหตุไล่แทงในวีเลอร์บาน(Villeurbanne)ชานเมืองลิยง ฝรั่งเศสในวันเสาร์(31 ส.ค) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นวัยรุ่นชายอายุ 19 ปี และได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน แหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยว่ามือมีดเป็นผู้อพยพอัฟกัน ชี้เป็นคดีอาชญากรรมธรรมดาไม่ใช่การก่อการร้าย
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(31 ส.ค)ว่า ทั้งนี้อ้างอิงจากแหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศสพบว่า มือมีดก่อไล่แทงคนบริเวณชานเมืองลิยงวันเสาร์(31 ส.ค)เป็นผู้อพยพชาวอัฟกันที่ไม่มีเคยประวัติเป็นที่รู้จักในหมู่ตำรวจฝรั่งเศสและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมาก่อน
พยานในเหตุการณ์ที่วีเลอร์บาน(Villeurbanne)กล่าวถึงคนร้ายว่าดูเหมือน “บ้าคลั่ง” โดยเธอให้ข้อมูลว่า “มีผู้ชายที่(ป้ายรถประจำทาง)หมายเลข 57 ได้เริ่มไล่แทงคนในทุกทิศทุกทาง”
เด็กหญิงซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์มีเลือดเปื้อนเสื้อ ได้เสริมต่อว่า “เขาได้ใช้มีดแทงไปที่ท้องของชายคนหนึ่งสำเร็จ” และกล่าวอีกว่า “คนร้ายได้ใช้มีดแทงที่ศรีษะของเหยื่อที่เป็นผู้ชาย และยังแทงที่บริเวณใบหูของหญิงอีกราย ซึ่งผู้หญิงรายนี้กำลังรอความตายที่ป้ายรถเมล์และไม่มีใครมาช่วย”
ทั้งนี้พบว่าเด็กผู้หญิงสามารถช่วยให้เหยื่อสตรีที่ถูกแทงขึ้นบนรถบัสได้สำเร็จ และรถได้ปิดประตูและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพยานเด็กหญิงกล่าวด้วยความระทึกว่า “มีเลือดเต็มไปหมดทุกหนทุกแห่ง”
เอเอฟพีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นวัยรุ่นชายวัย 19 ปี อ้างอิงการรายงานจากแถลงการร์สำนักงานอัยการเมืองลิยง และในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด 8 คน พบว่ามี 3 คนอยู่ในขั้นอันตราย
เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ช่วยเหลือ 20 คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งมีอาการตกใจ
เฌราล์ คอลลอมบ์ (Gerard Collomb) นายกเทศมนตรีเมืองลิยงที่เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ กล่าวกับนักข่าวว่า คนร้ายก่อเหตุอย่างไม่ทันตั้งตัว
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองวีเลอร์บาน ณอน-พอล เบรต( Jean-Paul Bret) ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อบรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ และกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใกล้กับสถานีในกลางเมืองซึ่งสามารถขัดขวางคนร้ายได้สำเร็จระหว่างที่มือมีดพยายามหลบหนี
ทางตำรวจได้จับกุมคนร้ายและส่งเข้าเรือนจำซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายและพยายามฆ่า สำนักงานอัยการเมืองลิยงแถลงต่อเอเอฟพี
ทั้งนี้เหตุจูงใจก่อเหตุในเบื้องต้นยังไม่แน่ชัด สำนักงานอัยการด้านการต่อต้านการก่อการร้ายรับทราบเหตุแล้ว แต่ยังไม่เข้ามาสอบสวนในเวลานี้
อดีตผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และหัวหน้าพรรคการเมืองปีกขวา "เนชันแนล แรลลี "(National Rally)มารีน เลอ แปน ได้ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์มีใจความว่า “นโยบายเข้าเมืองฝรั่งเศสของเราช่างไร้เดียงสาและย่อหย่อนนั้นเป็นภัยอย่างร้ายแรงต่อความปลอดภัยของประชาชนฝรั่งเศส”
