xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์กดดัน'ค่ายรถGM' ถอนธุรกิจพ้นจีน ท่ามกลางสงครามการค้ากับปักกิ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับสงครามการค้ากับปักกิ่ง เรียกร้องในวันศุกร์(30ส.ค.) ให้ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเอเมริกา ควรเริ่มถอนธุรกิจต่างๆของทางบริษัทกลับสู่แผ่นดินสหรัฐฯได้แล้ว
"เจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นยักษ์ใหญ่แห่งดีทรอยต์ ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กที่สุดในดีทรอยต์ไปเสียแล้ว พวกเขาย้ายโรงงานไปยังจีน ก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง มันเกิดขึ้นแม้สหรัฐฯเคยช่วยเหลือพวกเขา ตอนนี้ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่พวกเขาควรเริ่มย้ายกลับมายังสหรัฐฯอีกครั้ง?" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์
ดูเหมือนว่าทรัมป์จะอ้างถึงรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ระบุว่าพนักงานรายชั่วโมงของจีเอ็มเหลืออยู่ 46,000 คนในสหรัฐฯ ลดต่ำกว่า เฟียต ไครสเลอร์ กลายเป็นค่ายรถยนต์ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาบิ๊กทรีของดีทรอยด์ โดยตลอดช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา จีเอ็มได้ปรับลดขนาดแรงงานสหรัฐฯในภาพรวมหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยจ้างงานสูงสุดถึงเกือบ 620,000 คนในปี 1979
จีเอ็มไม่แสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อข้อความบนทวิตเตอร์ของทรัมป์ โดยทางบริษัทระบุในเอกสารชี้แจงว่า "กิจการต่างๆของจีเอ็มประเทศจีน ไม่ได้คุกคามตำแหน่งงานในสหรัฐฯ" พร้อมเน้นย้ำว่ากิจการร่วมค้าสร้างรายได้ให้จีเอ็มกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2010 และขณะเดียวกันทางบริษัทก็ได้ลงทุนในปฏิบัติการต่างในสหรัฐฯกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2009
แรงงานรายชั่วโมงของจีเอ็มในสหรัฐฯ ลดลงราวๆ 4,000 คนนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 กลับไปสู่ในระดับเดียวกับเมื่อราวๆ 1 ทศวรรษที่แล้ว
ความขุ่นเคืองของทรัมป์ที่มีต่อจีเอ็ม มีขึ้นในขณะที่การเจรจาเรื่องสัญญาระหว่างสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ United Auto Workers (UAW) กับค่ายรถยนต์บิ๊กทรีแห่งดีทรอยต์ ได้ยกระดับความคร่ำเคร่งยิ่งขึ้นก่อนถึงเส้นตายวันที่ 14 กันยายน โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยโจมตีจีเอ็ม ต่อกรณีผลิตรถยต์ในเม็กซิโกและยุติการผลิตที่โรงงานต่างๆในมิชิแกน, โอไฮโอและแมรีแลนด์ พร้อมกับขู่ตัดการอุดหนุนจีเอ็มเป็นการตอบโต้
ทั้งนี้ประเด็นพิพาทเกี่ยวกับสัญญาจ้างเป็นผลจากการตัดสินใจเปิดโรงงาน 4 แห่งในสหรัฐฯของจีเอ็มนั่นเอง
ทรัมป์วางเป้าให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไว้ในลำดับต้นๆ และเขาโจมตีค่ายรถยนต์หลายต่อหลายครั้งบนทวิตเตอร์ ต่อกรณีที่ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการส่งเสริมการจ้างงานในสหรัฐฯ
การเสนอตัวนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัยในศึกเลือกตั้ง 2020 ของทรัมป์จะขึ้นอยู่กับรัฐอุตสาหกรรมสำคัญๆ อันเป็น Battleground States (พื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง) อย่างเช่นวิสคอนซิน, เพนซิลเวเรียและมิชิแกน ซึ่งเคยโหวตเลือกเขาอย่างฉิวเฉียดเมื่อปี 2016
จีนคือตลาดยานยนต์ใหญ่ที่สุดของโลกและนโยบายของรัฐบาลเอื้ออำนวยแก่ค่ายรถต่างๆสำหรับประกอบรถยนต์ที่นั่น โดยไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างแดน
ในการตอบโต้มาตรการรีดภาษีล่าสุดของทรัมป์ ทางการจีนระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าพวกเขาจะคืนสถานะมาตรการรีดภาษี 25% ต่อยานยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่มาตรการรีดภาษี 15%ของสหรัฐฯ ที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 125,000 ดอลลาร์ มีกำหนดบังคับใช้นับตั้งแต่วันอาทิตยนี้(1ก.ย.) เป็นต้นไป
เมื่อปีที่แล้ว จีเอ็มขายรถยนต์ได้ถึง 3.6 ล้านคันในจีน หรือคิดเป็น 43%ของยอดขายทั้งหมดทั่วโลก ในขณะที่พวกเขามีรายได้ Equity income จากปฏิบัติการในจีนปีที่แล้ว 2,000 ล้านดอลลาร์







กำลังโหลดความคิดเห็น