เอเอฟพี - ไซมอน เฉิง (Simon Cheng) ลูกจ้างสถานกงสุลอังกฤษที่ถูกจับในจีน ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับไปยังฮ่องกงแล้ว ครอบครัวแถลงยืนยันวันนี้ (24 ส.ค.)
เฉิง เดินทางจากฮ่องกงไปยังนครเซินเจิ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งต่อมาทางการจีนได้ยืนยันว่าเขาถูกตำรวจควบคุมตัว
เพจเฟซบุ๊กของครอบครัว เฉิง ระบุว่า “ไซมอน เดินทางกลับถึงฮ่องกงแล้ว” และจะ “ใช้เวลาหยุดพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย”
เฉิง ได้ส่งข้อความถึงแฟนสาวเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่ากำลังเดินทางกลับฮ่องกงด้วยรถไฟความเร็วสูง และอีกนิดเดียวก็จะผ่านด่านศุลกากรแล้ว แต่หลังจากนั้นเขาก็เงียบหายไปและไม่สามารถติดต่อได้อยู่นานหลายวัน กระทั่งปักกิ่งยืนยันว่าเขาถูกตำรวจเซินเจิ้นคุมขังเนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายควาปลอดภัยสาธารณะ
ตำรวจเซินเจิ้นชี้แจงผ่านบล็อกเวยปั๋วว่า เฉิง “ถูกลงโทษทางปกครองเป็นเวลา 15 วัน โทษฐานละเมิดกฎหมายว่าด้วยการจัดการความปลอดภัยสาธารณะของสาธารณรัฐประชาชนจีน”
ลูกจ้างสถานกงสุลอังกฤษประจำฮ่องกงได้รับการปล่อยตัววันนี้ (24) หลังรับโทษจนครบตามที่กฎหมายกำหนด และเขา “รับสารภาพว่าได้ทำผิดกฎหมายจริง” แต่ตำรวจก็ไม่ระบุว่าเป็นความผิดอะไร
การจับกุมลูกจ้างสถานกงสุลรายนี้เกิดขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์อังกฤษและจีนกำลังย่ำแย่ โดยปักกิ่งกล่าวหาลอนดอนว่าสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งจัดการประท้วงยืดเยื้อมานานถึง 3 เดือนแล้ว
ระหว่างที่ เฉิง ถูกคุมขังอยู่นั้น สื่อรัฐบาลจีนก็ได้กระพือข้อสันนิษฐานสาเหตุที่ชายผู้นี้ถูกจับ ตัวอย่างเช่นหนังสือพิมพ์โกลบัลไทม์สซึ่งเป็นสื่อแท็บลอยด์ของรัฐบาลจีน รายงานว่า เฉิง ถูกจับฐาน “ซื้อบริการทางเพศจากโสเภณี” โดยอ้างว่าได้ข้อมูลมาจากตำรวจเซินเจิ้น
บทบรรณาธิการของโกลบัลไทม์สยังอ้างว่า เฉิง ขอร้องให้ตำรวจเซินเจิ้นอย่าติดต่อครอบครัวของเขา “แต่เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษและสื่อช่วยกันกระพือข่าว ทำให้คดีนี้ถูกเปิดเผยออกมาในที่สุด”
อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊กของครอบครัว เฉิง ได้ออกมาปฏิเสธรายงานนี้อย่างสิ้นเชิง โดยมีการโพสต์ข้อความว่า “ข้อหาซื้อบริการโสเภณีเป็นแค่การกุเรื่องใส่ร้าย ทุกคนควรเห็นว่ามันเป็นเรื่องน่าตลกแค่ไหน”
จีนรับมอบฮ่องกงคืนจากอังกฤษในปี 1997 และสัญญาว่าจะยอมให้เกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้มีเสรีภาพและอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง ซึ่งรวมถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และระบบศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระ ทว่ากลุ่มผู้ประท้วงมองว่าสิทธิและเสรีภาพเหล่านี้กำลังถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ
รัฐบาลจีนได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดบริเวณจุดผ่านแดนตั้งแต่เกิดการประท้วงที่ฮ่องกง เช่น ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้โดยสารบางคน เพื่อดูว่ามีการบันทึกภาพการชุมนุมประท้วงหรือไม่
เมื่อวานนี้ (23) ผู้ชุมนุมชาวฮ่องกงหลายพันคนได้ร่วมต่อแขนประท้วงอย่างสันติ เลียนแบบ "โซ่มนุษย์แห่งเสรีภาพบอลติก" ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1989