รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ยกระดับเตือนภัยพลเมืองที่จะเดินทางไปฮ่องกงในระยะนี้ โดยขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ยังส่อแววยืดเยื้อและอาจนำไปสู่เหตุปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมบนท้องถนน
การชุมนุมประท้วงบนเกาะศูนย์กลางการเงินเอเชียแห่งนี้เริ่มขึ้นจากกระแสคัดค้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน ก่อนจะลุกลามจนกลายเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเกาะฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อเรียกร้องการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบ
“การประท้วงและเหตุปะทะได้ขยายวงกว้างไปสู่ย่านอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ที่ตำรวจฮ่องกงอนุญาตให้มีการชุมนุมหรือเดินขบวน” คำแนะนำการเดินทางซึ่งเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ประจำฮ่องกงและมาเก๊าวานนี้ (7 ส.ค.) ระบุ
“การชุมนุมเหล่านี้อาจเกิดขึ้นโดยแทบไม่มีประกาศแจ้งล่วงหน้า และคาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอีก”
สหรัฐฯ เตือนพลเมืองที่จะเดินทางไปทำธุระหรือท่องเที่ยวในฮ่องกงให้ใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ
ด้านรัฐบาลออสเตรเลียก็ได้ทบทวนคำแนะนำการเดินทางไปฮ่องกงเมื่อวานนี้ (7) โดยขอให้พลเมืองเพิ่มความระมัดระวังเช่นเดียวกัน
การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงคราวนี้ถือเป็นกระแสต่อต้านจากมวลชนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก้าวขึ้นปกครองจีนในปี 2012 ขณะที่ สี เองก็ยังต้องรับศึกหนักจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
จาง เสี่ยวหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าที่ขึ้นต่อต่อคณะรัฐมนตรีจีน ยอมรับวานนี้ (7) ว่าวิกฤตการณ์ฮ่องกงที่ดำเนินต่อเนื่องมานานถึง 60 วันกำลังเลวร้ายลงทุกขณะ จนอาจพูดได้ว่าฮ่องกงกำลังเผชิญสถานการณ์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบคืนดินแดนแห่งนี้ให้แก่จีนเมื่อปี 1997
กลุ่มผู้ประท้วงเตรียมนัดชุมนุมใหญ่ทั่วเกาะอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (9) ที่บริเวณสนามบินนานาชาติฮ่องกง