xs
xsm
sm
md
lg

In Clips: สุดฮือฮา!! แอปเปิลออกบัตรเครดิต “แอปเปิลการ์ด” เป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - แอปเปิลจับมือร่วมกับธนาคารวาณิชธนกิจโกลด์แมนแซคส์และมาสเตอร์การ์ด พบเมื่อวานนี้(6 ส.ค)เป็นครั้งแรกที่กลุ่มผู้ใช้ที่ถูกเลือกด้วยจำนวนจำกัดในครั้งแรกจะได้รับอีเมลคำเชิญจากแอปเปิลในการแจ้งว่า บัตรเครดิตแอปเปิลนั้นพร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว พบว่าบัตรเครดิตแอปเปิลเป็นแบบดิจิทัลมีเป้าหมายให้ผู้ใช้โทรศัพท์ไอโฟนสามารถใช้ชำระผ่านบริการแอปเปิล เพย์ เซอร์วิส ไม่มีค่าบริการ โดยจะได้รับเงินคืน 2% ทุการใช้จ่ายผ่านแอปเปิล เพย์ เซอร์วิส และ 1% ผ่านบัตรเครดิตแบบแข็งแอปเปิลทำมาจากโลหะไททาเนียมที่สามารถใส่กระเป๋าได้จะไม่มีหมายเลขปรากฎ มีเพียงแต่ชื่อและชิปปรากฎบนตัวบัตรเท่านั้น และต้องใช้งานคู่กับโทรศัพท์ไอโฟน

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(6 ส.ค)ว่า ในการออกบริการบัตรเครดิต “แอปเปิลการ์ด” (Apple Card )จะช่วยให้บริษัทแอปเปิลมีรายได้เพิ่มเติมจากการแค่ผลิตโทรศัพท์มือถือขายเพียงอย่างเดียวด้วยการก้าวเข้าสู่ตลาดการเงินวอลสตรีท ซึ่งในวันอังคาร(6)พบว่ามีผู้ใช้งานโทรศัพท์ไอโฟนจำนวนจำกัดที่ถูกเลือกแบบสุ่มจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนถึงการได้รับบัตรเครดิตแอปเปิล

อย่างไรก็ตามอ้างจากหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ ทางแอปเปิลไม่ได้เปิดเผยว่า ในครั้งแรกของการเชิญให้เข้าสมัครนั้นมีจำนวนตัวเลขอยู่ที่เท่าใด และการให้บัตรเครดิต แอปเปิลการ์ด จะมีเฉพาะในสหรัฐฯช่วงแรก

ทั้งนี้พบว่าหุ้นของแอปเปิลขึ้นไป 1% ที่ 195.30 ดอลลาร์ในการซื้อขายก่อนระฆังดัง

CNET สื่อคอมพิวเตอร์รายงานว่า บัตรเครดิตแอปเปิลนั้นเป็นบัตรดิจิทัลที่มาพร้อมกับคำประกาศว่า***ไม่มีการต้องจ่ายธรรมเนียมรายปี ค่าปรับล่าช้า หรือค่าปรับการใช้เกินวงเงิน(over-the-limit fees)***

สำหรับการสมัครและการจัดการบัตรนั้นกระทำผ่านวอลเล็ต แอพบนโทรศัพท์ไอโฟนที่มี iOS 12.4 CNET รายงานว่า หากว่าผู้ขอได้รับการอนุมัติ บัตรเครดิตแบบดิจิทัลจะถูกใส่เข้าไปได้บนแอพทันทีและสามารถเปิดใช้งานได้หลังจากนั้น

ซึ่งนอกเหนือจากการที่แอปเปิลไม่เก็บค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว ยังพบว่าบัตรแอปเปิลยังเสนอจ่ายเงินคืนสูงสุด 3% ของการใช้จ่ายโดยตรงกับบริษัทแอปเปิล ซึ่งรวมไปถึงการซื้อทางดิจิทัลและการสมัครสมาชิกต่างๆ” และเงินคืน 2% ผ่านการใช้แอปเปิล เพย์ เซอร์วิส

ซึ่งเงินแคชแบ็ค(Cashback) หรือเงินคืนจะถูกโอนเข้าบัญชีของลูกค้าทุกวันผ่านระบบที่เรียกว่า “เดลี แคช” (Daily Cash) ซึ่งสามารถนำไปชำระค่าใช้บริการต่างๆได้ หรือสามารถโอนให้กับผู้อื่นผ่านระบบ “แอปเปิล แคช” (Apple Cash) และยังสามารถโอนเงินจากแอปเปิล แคชไปยังบัญชีธนาคารเงินฝากของผู้ใช้แอปเปิลได้อีกด้วย

ทั้งนี้พบว่าลูกค้าจะสามารถรู้ข้อมูลบัตรรวมไปถึงหมายเลข 16 ตัวของบัตรเครดิตแอปเปิลบนแอพ ทั้งนี้พบว่าสำหรับบัตรเครดิตแอปเปิลนั้นจะถูกกำหนดด้วยตัวเลขบัตร 2 ชุดคือชุดหมายเลขบัตรสำหรับบัตรดิจิทัลและบัตรเครดิตแบบแข็งตามปกติ แต่ทว่าผู้ใช้จะสามารถมองเห็นหมายเลขบัตรดิจิทัลเท่านั้น ที่จะถูกนำไปใส่บนเว็บไซต์หรือให้ผ่านทางโทรศัพท์ไปยังร้านจำหน่ายพิซซ่าเพื่อสั่งพิซซ่าได้

สื่อคอมพิวเตอร์ชี้ว่า บัตรเครดิตแบบแข็งของแอปเปิลนั้นทำมาจากโลหะไททาเนียมที่ถูกออกแบบมาสำหรับในกรณีที่ไม่สามารถใช้งานผ่านแอพบนไอโฟน ซึ่งบนบัตรเครดิตแอปเปิลแบบแข็งจะปรากฎเพียงชื่อผู้ถือ สัญลักษณ์ของแอปเปิล ชิปการ์ด ส่วนด้านหลังจะมีสัญลักษณ์ของธนาคารวานิชธนกิจโกลด์แมนแซคส์และมาสเตอร์การ์ดซึ่งเป็นพันธมิตรกับแอปเปิลในการให้บริการบัตรเครดิตครั้งนี้ แต่ไม่มีหมายเลขบัตรปรากฏเหมือนเช่นบัตรเครดิตอื่นๆ

การใช้งานบัตรแข็งของแอปเปิลยังคงจำเป็นต้องใช้คู่กับโทรศัพท์ไอโฟน โดยโทรศัพท์จะเป็นตัวในการแอกติเวตเปิดให้บัตรแบบแข็งทำงาน

CNET รายงานว่าหากว่าโทรศัพท์หรือบัตรแข็งเกิดถูกขโมยหรือสูญหายไม่ต้องตกใจไป เพราะผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าระบบคอมพิวเตอร์ iCloud เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถทำการสั่งอายัดหรือยกเลิกการจ่าย อย่างไรก็ตามทางเจ้าของบัตรยังคงต้องติดต่อธนาคารวาณิชธนกิจโกลด์แมนแซคส์อยู่ดีเพื่อที่จะสั่งบัตรแข็งใบใหม่หรือขอชุดหมายเลขบัตรเครดิตแบบดิจิทัลชุดใหม่ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการได้รับบัตรแข็งใบใหม่ของแอปเปิล

รอยเตอร์ชี้ว่า ทางแอปเปิลกล่าวว่า ข้อมูลการซื้อของผู้ใช้จะถูกเก็บในโทรศัพท์ไอโฟน และอีกทั้งทางโกลด์แมนแซคส์จะไม่สามารถใช้ข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาดได้

ด้านจีน มันสเตอร์ (Gene Munster) พันธมิตรจัดการร่วมกับ Loup Ventures บริษัทวิจัยทางอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นผู้จับตาแอปเปิลมาอย่างยาวนานแสดงความเห็นว่า ตัวเลขการใช้บัตรเครดิตแอปเปิลคาดว่าอาจจะต่ำในช่วงปีแรก แต่เชื่อว่ามั่นจะสามารถทำยอดมาร์จินของรายได้สูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 และนั่นจะสามารถเพิ่ม 1.8% ให้กับรายได้ทั้งหมด รวมไปถึงจะทำให้ส่วนแอปเปิล เพย์ เซอร์วิสโตขึ้น เชื่อว่าจะทำให้มีรายได้จากบริการทั้งหมดราว 5.38 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023

ซึ่งในเวลานี้มีผู้ใช้บริการแอปเปิล เพย์ เซอร์วิสในสหรัฐฯจำนวนราว 50 ล้านคน







กำลังโหลดความคิดเห็น