เอเอฟพี - รัฐบาลอินเดียฝากคำเตือนถึงจีนวานนี้ (6 ส.ค.) ว่าการถอนสถานะปกครองตนเองของแคชเมียร์ และแบ่งภูมิภาคดังกล่าวออกเป็น 2 ส่วน ถือเป็น “เรื่องภายในประเทศ” หลังปักกิ่งออกมาวิจารณ์และประณาม “กระทำการฝ่ายเดียว” ของผู้นำเดลี
อินเดีย ปากีสถาน และจีนต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนแถบเทือกเขาหิมาลัยทั้งหมดหรือบางส่วน ดังนั้น การที่รัฐบาลอินเดียสั่งถอนสถานะพิเศษของแคชเมียร์เมื่อวันจันทร์ (5) จึงก่อปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงจากเพื่อนบ้านทั้งสอง
ประเด็นที่จีนวิจารณ์หนักสุดก็คือ การประกาศให้เขตลาดัก (Ladakh) ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธเป็นดินแดนที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางเดลี
“รัฐบาลจีนคัดค้านเรื่อยมาเรื่องที่อินเดียจะผนวกดินแดนของจีนทางฝั่งตะวันตกของเส้นพรมแดนจีน-อินเดียเข้าไปอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลกลาง” หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุ
“เมื่อไม่นานมานี้ อินเดียก็ได้ละเมิดอธิปไตยของจีนโดยการแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นฝ่ายเดียว การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และไม่สามารถบังคับใช้ได้"
อินเดียอ้างว่าถูกจีนเข้ายึดครองพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ 38,000 ตารางกิโลเมตรอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ปักกิ่งก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดน 99,000 ตารางกิโลเมตรในรัฐอรุณาจัลประเทศทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
รัฐบาลเดลียืนยันว่า การกำหนดสถานะใหม่ของลาดักให้กลายเป็น “ดินแดนสหภาพ” (union territory) ถือเป็น “กิจการภายในที่เกี่ยวข้องกับดินแดนของอินเดีย”
“อินเดียไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจการภายในของชาติอื่นๆ และหวังว่าชาติอื่นก็คงจะทำแบบเดียวกัน” ราวีช กุมาร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดียแถลง พร้อมเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย “ร่วมกันธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความสงบสุขบริเวณพรมแดน”
เส้นเขตแดนพิพาทระหว่างอินเดียและจีนยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกเรื่อยมา นับตั้งแต่ทั้ง 2 ชาติได้ทำสงครามกันเมื่อปี 1962
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย แถลงเมื่อค่ำวานนี้ (6) ว่า รัฐบาลของตนได้ตอบสนองความต้องการของชาวลาดัก ซึ่งเรียกร้องมานานแล้วให้พื้นที่นี้ถูกประกาศเป็นดินแดนสหภาพของอินเดีย
“ขอแสดงความยินดีเป็นพิเศษต่อประชาชนชาวลาดัก! การตัดสินใจครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค และยกระดับสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น” โมดี ทวีตข้อความ