รอยเตอร์/เอเจนซีส์- วันนี้(2 ส.ค) ประธานาธิบดี มุน แจ-อินออกแถลงประณามญี่ปุ่นว่า ไร้ความรับผิดชอบ ในการตัดสินใจถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีขาวซึ่งเอื้อทางการค้า พร้อมประกาศว่า โซลจะทำการตอบโต้อย่างแน่นอน
รอยเตอร์รายงานวันนี้(2 ส.ค)ว่า ในระหว่างการถ่ายทอดสดการประชุมคณะรัฐมนตรีเกาหลีใต้วันนี้(2) ซึ่งถือว่าน้อยครั้งที่จะเกิดขึ้น ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ได้ประกาศที่จะออกมาตรการตอบโต้ญี่ปุ่นหลังคณะครม.นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ตัดสินใจถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีขาวในวันศุกร์(2) ซึ่งเป็นบัญชีสถานการณ์ส่งอออกแบบฟาสต์แทร็คโดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ส.คนี้
เอเอฟพีรายงานว่า รัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่นได้แถลงต่อนักข่าววันศุกร์(2)ว่า “การประชุมคณะครม.ในวันนี้อนุมัติการแก้ไขกฎหมายการควบคุมส่งออก..ไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศเอเชียเพียงประเทศเดียวในรายชื่อนั้นจะถูกถอดออกไป”
รัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่นกล่าวยืนยันต่อว่า นี่ไม่ใช่การปิดล้อมทางการค้าแน่นอน
รอยเตอร์ชี้ว่า การนำออกจากบัญชีขาวซึ่งเป็นการเอื้อการส่งออกไปยังประเทศปลายทางหมายความว่า ผู้ส่งออกแดนอาทิตย์อุทัยจะต้องพบกับความยุ่งยากทางด้านเอกสารและการตรวจเช็กที่ไซต์ก่อนที่ทางผู้ส่งออกจะได้รับใบอนุญาตที่ครอบคลุมสินค้าหลากหลาย
มุนได้กล่าวต่อคณะครม.ว่า “เราจะไม่แพ้ต่อญี่ปุ่นอีกครั้ง” โดยชี้ไปถึงประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนระหว่าง 2 ชาติที่คาบสมุทรเกาหลีถูกญี่ปุ่นครอบครองตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
และมุนยังได้อธิบายว่า ญี่ปุ่นเป็นพวกเห็นแก่ตัวที่น่ารำคาญ สำหรับการตัดสินใจที่คุกคามต่อซัพพลายเชนของโลก
ทั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้ได้ออกมาตำหนิญี่ปุ่นตามประธานาธิบดีมุน โดย คิม ฮยุน-ชอง( Kim Hyun-chong)ที่ปรึกษาระดับสูงด้านความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ออกมาตำหนิโตเกียวว่าทางญี่ปุ่นขัดขวางความพยายามของโซลในการสร้างสันติภาพร่วมกับเกาหลีเหนือ
คิมยังชี้ว่า ทางเกาหลีใต้จะทำการทบทวนว่าจะยังคงให้ข้อมูลทางการทหารร่วมกับญี่ปุ่นต่อหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่ากระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ได้เรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นไปพบเพื่อแจ้งให้ทราบว่า ญี่ปุ่นไม่ถูกจัดว่าเป็นมิตรอีกต่อไป อ้างจากสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้
ทั้งนี้ก่อนหน้ารัฐมนตรีอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ฮิโรชิเกะ เซโกะ (Hiroshige Seko) แถลงว่า ทางคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ทำการตัดสินใจถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีขาวบนพื้นฐานของความมั่นคงชาติเป็นหลัก และไม่มีจุดประสงค์ต้องการทำลายความสัมพันธ์
และยังชี้ไปถึงความสัมพันธ์ที่เสื่อมทรามเนื่องมาจากศาลเกาหลีใต้ตัดสินให้บริษัทญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับแรงงานบังคับเกาหลีใต้ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทางญี่ปุ่นยืนยันว่าปัญหานี้ได้ยุติตั้งแต่สนธิสัญญาปี 1965 ที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตของ 2 ชาติกลับมาเป็นปกติ
เซโกะกล่าวว่า “เราต้องการเกาหลีใต้ให้สร้างสภาวะแวดล้อมเพื่อที่จะสามารถกลับมาเจรจาได้อีกครั้งด้วยความเชื่อมั่น เป็นความรับผิดชอบที่เกาหลีใต้ต้องทำ”
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันศุกร์(2) รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้แถลงว่า ทางโซลจะถอด “ญี่ปุ่น” ออกจาก “บัญชีขาว” ของพันธมิตรทางการค้าที่มีความเชื่อมั่น โดยฮง นัม-กี(Hong Nam-ki) กล่าวว่าการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นทำลายขั้นลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์ของความเชื่อมั่นและความร่วมมือที่ 2 ประเทศได้สร้างมาในอดีต
“และจากสิ่งนี้ ทางเราได้แสดงการต่อต้านอย่างรุนแรงและความเสียใจอย่างมาก และเรียกร้องให้โตเกียวถอนมาตรการทางการค้าที่ไม่เป็นมิตรออกไป”