เอเจนซีส์ – ค่าของเงินปอนด์ทรุดทำสถิติต่ำสุดในรอบ 28 เดือน หลัง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษย้ำว่า ข้อตกลงเบร็กซิตที่อดีตนายกฯเทเรซา เมย์ ทำไว้กับทางอียูนั้น “ตายแล้ว” พร้อมขู่ถ้าบรัสเซลส์ไม่ยอมเปิดเจรจากันใหม่ เขาก็จะนำประเทศถอนตัวจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง ตามกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ตุลาคม ด้านเหล่านักการทูตในยุโรปมองกันว่า หากจอห์นสันดึงดันทางเลือกนี้ มีแนวโน้มสูงว่า อังกฤษอาจต้องล้างไพ่จัดเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด
บรรดานักลงทุนมากมายต่างเตือนว่า หากอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงหรือ “โนดีล” (No Deal) จะนำอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดการเงินปั่นป่วน และบั่นทอนสถานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศของลอนดอน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม
ในวันจันทร์ (29 ก.ค.) สมาพันธ์เพื่ออุตสาหกรรมอังกฤษ (ซีบีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ทางธุรกิจของเมืองผู้ดี ระบุว่า บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดเบร็กซิตแบบโนดีล พร้อมเตือนว่าทั้งอังกฤษและอียูยังไม่พร้อมสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว และเรียกร้องให้ภาคธุรกิจเร่งวางแผนสำรอง
จุดยืนแข็งกร้าวของจอห์นสัน ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษกลางสัปดาห์ที่แล้ว ฉุดค่าเงินปอนด์อ่อนยวบอยู่ที่ 1 ปอนด์แลกได้ 1.2213 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ ต่ำสุดนับจากเดือนมีนาคม 2017 และเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 1.2120 ดอลลาร์ในตลาดเอเชียวันอังคาร (30)
เดิมพันของจอห์นสันคือ การขู่ถอนตัวจากอียูแบบโนดีล น่าจะสามารถโน้มน้าวให้มหาอำนาจยุโรปคือ เยอรมนีและฝรั่งเศส ยินยอมให้อียูเจรจากับอังกฤษใหม่ เพื่อทบทวนแก้ไขข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับอดีตนายกฯเมย์ แต่ถูกรัฐสภาอังกฤษคว่ำไม่ยอมรับถึง 3 ครั้ง 3 หน
จอห์นสันย้ำเงื่อนไขนี้อีกครั้งระหว่างเดินทางไปยังฐานทัพเรือไคลด์ ในสก็อตแลนด์เมื่อวันจันทร์ (29) ว่า อังกฤษจะออกจากอียูตามกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 ตุลาคมที่จะถึง ไม่ว่ามีข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม
ขณะนี้นายกฯใหม่ของอังกฤษยังไม่ได้ประกาศแผนการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ ในอียู แต่ส่งสัญญาณว่า จอห์นสันยินดีพบเหล่าผู้นำยุโรปเมื่อบรัสเซลส์ยอมเปลี่ยนจุดยืนเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังกล่าวว่า ไอริช แบ็กสต็อปตายสนิทแล้วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลง “ไอริช แบ็กสต็อป” สหราชอาณาจักรจะยังต้องอยู่ภายในสหภาพศุลกากรกับอียู เว้นแต่หรือจนกว่าจะมีข้อตกลงใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องกลับไปตั้งด่านตรวจชายแดนขึ้นมาใหม่ ระหว่างไอร์แลนด์ที่เป็นสมาชิกอียู กับไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร
ทว่า สมาชิก 27 ประเทศของอียูต่างลงความเห็นว่า จะไม่ต่อรองประเด็นนี้อีก และนักการทูตหลายคนในอียูเชื่อว่า มีแนวโน้มสูงที่อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด เนื่องจากหากจอห์นสันเดินหน้าเบร็กซิตแบบไม่มีข้อตกลง สมาชิกรัฐสภาจำนวนมากของอังกฤษจะพยายามหยุดยั้งเขา ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีการโหวตล้มรัฐบาลและปูทางสู่การเลือกตั้งใหม่
ทางด้าน โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า ลอนดอนกำลังเร่งมือเต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถอนตัวจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง และวิจารณ์ว่า บรัสเซลส์ “ดื้อรั้น” แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขู่อียูที่มีมูลค่าเศรษฐกิจถึง 15.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 6 เท่าของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
ในอีกด้านหนึ่ง ทัศนคติที่แตกต่างเกี่ยวกับเบร็กซิตของเขตปกครองต่างๆ กำลังทำให้สัมพันธภาพภายในสหราชอาณาจักรอยู่ในภาวะสั่นแคลน เพราะแม้ผลประชามติโดยรวมได้เลือกออกจากอียูด้วยคะแนน 52% ต่อ 48% ทว่า สกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ เสียงข้างมากกลับโหวตเพื่อเป็นสมาชิกอียูต่อ ขณะที่ผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ในอังกฤษและเวลส์พากันโหวตให้เบร็กซิต
ลีโอ วารัดการ์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า คำถามเกี่ยวกับการรวมชาติระหว่างไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนือปะทุขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากอังกฤษออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงในวันที่ 31 ตุลาคม
ในวันจันทร์ จอห์นสันเดินทางเยือนสกอตแลนด์ครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้พบกับนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์และผู้นำพรรคสก็อตทิช เนชันแนล ปาร์ตี้ที่สนับสนุนการแยกสกอตแลนด์เป็นประเทศเอกราช และยังคงเป็นสมาชิกอียูต่อไป
สเตอร์เจียนกล่าวหาจอห์นสันแอบเดินหน้าเบร็กซิตแบบไม่มีข้อตกลงซึ่ง “อันตรายมาก” และเสริมว่า การเชื่อว่า บรัสเซลส์จะยอมเปลี่ยนข้อเสนอเป็นยุทธศาสตร์สู่ความล้มเหลว