รอยเตอร์ - อิหร่านเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) ว่าได้ทำการยึดเรือต่างชาติลำหนึ่งซึ่งกำลังลักลอบบรรทุกเชื้อเพลิงในอ่าวเปอร์เซีย ในขณะที่ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯในภูมิภาคบอกว่าอเมริกากำลังทำงานเชิงรุกเพื่อรับประกันการเดินเรืออย่างเสรีผ่านน่านน้ำอันสำคัญแห่งนี้
สหรัฐฯกล่าวโทษอิหร่านต่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันหลายครั้งในเส้นทางลำเลียงน้ำมันสำคัญสุดของโลกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ข้อกล่าวหาที่ทางเตหะรานปฏิเสธ แต่มันโหมกระพือความกังวลว่าสองคู่อริที่ไม่กินเส้นกันมาอย่างยาวนานอาจถลำเข้าสู่สงคราม
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเรือที่ถูกยึดลำดังกล่าวเป็นลำเดียวกับที่อิหร่านลากไปยังจุดปลอดภัยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(14ก.ค.)หรือไม่ หลังจากส่งสัญญาณสัญญาณแจ้งเหตุร้าย โดยเบื้องต้นสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่านรายงานว่ามันเป็นเรือลำเดียวกัน แต่ในถ้อยแถลงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติไม่ยืนยันในเรื่องนี้
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่านบอกว่าเรือที่ถูกยึดกำลังลักลอบขนน้ำมัน 1 ล้านลิตรในพื้นที่ของเกาะลารัคในอ่าวเปอร์เซียและมีลูกเรือชาวต่างชาติ 12 คน
แม้อิหร่านยังไม่เปิดเผยชื่อของเรือ แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมขนส่งเชื่อว่ามันน่าจะเป็นเรือ เอ็มที ริอาห์ (MT Riah) โดยจากข้อมูลพบว่าสัญญาณสุดท้ายที่ได้รับจากเรือคือในวันอาทิตย์(14ก.ค.) ตอนที่มันกำลังแล่นอยู่ในช่องแคบฮอร์มุซ นอกชายฝั่งเกาะเคชม์ (Qeshm Island) ของอิหร่น และกำลังมุ่งหน้าจากเกาะลารัค ไปยังโอมาน
ผู้จัดการเรือลงทะเบียนในชื่อไพรม์ แทงเกอร์ส(Prime Tankers) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งบริษัทแห่งนี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าพวกเขาได้ขายเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวให้กับ โมอุจ อัล-บาฮาร์(Mouj al-Bahar) บริษัทในยูเออีเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทางพนักงานของ โมอุจ อัล-บาฮาร์ ให้ข้อมูลว่าบริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของเรือ เพียงแต่เคยทำหน้าที่บริหารจัดการเรือเมื่อราวๆ 2 เดือนก่อน และตอนนี้เรือลำดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทอีกแห่ง นั่นคือเคอาร์บี โปโตรเชม( Petrochem) ทั้งนี้ทางรอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อกับ โปโตรเชม เพื่อขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ได้
ในถ้อยแถลงวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) ทางกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน บอกว่าพวกเขาไม่ได้ยึดเรือลำอื่นอีกในอ่าวเปอร์เซีย ท่ามกลางความกังวลของเหล่าชาติตะวันตกต่อพฤติกรรมต่างๆของเตหะรานในภูมิภาค
นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันหลายครั้งใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ ได้ก่อความปั่นป่วนในเส้นทางเดินเรืออันสำคัญแห่งนี้ที่เชื่อมโยงเหล่าผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางกับตลาดต่างๆในเอเชีย, ยุโรป, อเมริกาเหนือและอื่นๆ
อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และขณะเดียวกันก็ขู่ตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งถูกรื้อฟื้นขึ้นมาหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างมหาอำนาจตะวันตกกับเตหะราน ที่ทางอิหร่านยอมระงับกิจกรรมนิวเคลียร์แลกกับการปลดมาตรการคว่ำบาตร
เตหะรานขู่ว่าจะเดินหน้าลดให้ความร่วมมือในข้อตกลง จนกว่าพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้กลับมาขายน้ำมันตามปกติ และเรียกร้องภาคียุโรปในข้อตกลงนิวเคลียร์คอยปรามสหรัฐฯเอาไว้
อย่างไรก็ตามวอชิงตันบอกว่าพวกเขาต้องการเพิ่มแรงกดดันอิหร่านให้ยอมเปิดเจรจาใหม่ในข้อตกลงดังกล่าว พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ดินแดนที่สหรัฐฯมีพันธมิตรรัฐอาหรับหลายชาติที่มีจุดยืนต่อต้านเตหะราน
พลเอกเคนเนธ แมคเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯระบุว่าอเมริกากำลังพูดคุยกับหลายประเทศ ในการหาทางรับประกันเสรีภาพแห่งการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย โดยเขาพูดถึงเรื่องนี้ระหว่างแถลงข่าวในกรุงริยาด ร่วมกับพลเอกเจ้าชายฟาฮัด บิน ตุรกิ ผู้บัญชาการพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียที่กำลังสู้รบกับกบฏฮูตี พันธมิตรของอิหร่านในเยเมน
สหรัฐฯได้เสริมกำลังทหารเข้าไปในภูมิภาคและกำลังร้องขอพันธมิตรช่วยปกป้องน่านน้ำยุทธศาสตร์นอกชายฝั่งอิหร่านและเยเมน ขณะที่กองเรือที่ 5 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ในบาห์เรน เผยว่าเหล่าชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซียได้ยกระดับลาดตระเวนเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ขณะเดียวกันอังกฤษในวันพฤหัสบดี(18ก.ค.) เรียกร้องอิหร่านให้คลายสถานการณ์ตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย และบอกว่ากำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุดนี้
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อิหร่านกล่าวหาอังกฤษกระทำการเยี่ยงโจรสลัด หลังจากนาวิกโยธินอังกฤษดำเนินการยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านนอกชายฝั่งยิบรอลตาร์ ฐานต้องสงสัยกำลังลักลอบขนน้ำมันไปมอบให้แก่ซีเรีย พันธมิตรของอิหร่าน ซึ่งละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอียูที่กำหนดเล่นงานซีเรีย