รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ร้องเรียนสหรัฐฯ ว่าญี่ปุ่นกำลังใช้มาตรการ “ไม่พึงประสงค์” จำกัดส่งออกสินค้าไฮเทคให้แก่แดนโสมขาว ซึ่งเสี่ยงกระพือสงครามการค้าระหว่างสองเพื่อนบ้าน
ญี่ปุ่นได้ออกคำสั่งคุมเข้มการส่งออกเคมีภัณฑ์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อการผลิตหน้าจอและชิปไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” กันได้ถูกทำลายไปจากการที่โซลเรียกร้องให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่ชาวเกาหลีที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
มาตรการของญี่ปุ่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทเทคโนโลยีอย่าง ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และ เอสเค ไฮนิกซ์ ซึ่งส่งออกชิปให้แก่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ๆ ของโลกอย่าง แอปเปิล อิงค์ และ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์
พรรครัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินอีก 300,000 ล้านวอนเป็นงบประมาณส่วนเสริมเพื่อรับมือกับมาตรการคุมเข้มส่งออกวัสดุไฮเทคของญี่ปุ่น และสนับสนุนให้บริษัทเกาหลีใต้สามารถจัดหาวัตถุดิบในการผลิตชิปและหน้าจอสมาร์ทโฟนได้เองภายในประเทศ
ชอน โรช นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านเอเชีย-แปซิฟิกจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ก็ออกมาเตือนว่า ข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้คราวนี้คาดเดาได้ยากพอๆ กับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และอาจมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของแดนโสม
หลังจากที่เปิดสงครามน้ำลายกับญี่ปุ่นในเวทีประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) สัปดาห์นี้ ล่าสุดรัฐบาลโซลเริ่มจะหันหน้าไปพึ่งพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ให้เข้ามาช่วยแทรกแซง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าวอชิงตันคงจะไม่อยากรับหน้าเสื่อเป็นคนกลางในข้อพิพาทครั้งนี้
คัง คยุง-ฮวา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อค่ำวันพุธ (10) โดยเธอร้องเรียนว่า มาตรการจำกัดส่งออกของญี่ปุ่นไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบริษัทเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลกและผู้ผลิตในอเมริกาด้วยเช่นกัน
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐมนตรี คัง แสดงความเป็นห่วงว่าสิ่งเหล่านี้ “เป็นมาตรการที่ไม่พึงประสงค์ หากมองในแง่มุมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น และความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น” ซึ่งโซลหวังว่าโตเกียวจะเพิกถอนการจำกัดส่งออก เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายไปกว่านี้
พอมเพโอ ยืนยันว่าสหรัฐฯ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และได้ตกลงกับ คัง ว่าจะสานต่อความร่วมมือและการพูดคุย 3 ฝ่ายต่อไป
คิม ฮยุนชอง รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ เดินทางไปถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวานนี้ (10) และบอกกับสื่อมวลชนว่า ตนมาที่นี่ก็เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและสมาชิกสภาคองเกรสในประเด็นต่างๆ รวมถึงมาตรการคุมเข้มส่งออกสินค้าไฮเทคของญี่ปุ่นด้วย
อิจิโระ ฟูจิซากิ อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์วานนี้ (10) ว่า “ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องขอให้สหรัฐฯ มาช่วยไกล่เกลี่ย ก็เหมือนกับที่ญี่ปุ่นจะไม่เข้าไปเป็นคนกลางระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก หรือสหรัฐฯ กับแคนาดา”
“นี่คือปัญหาที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะต้องแก้ไขกันเอง” เขาย้ำ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า เดวิด สติลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะเดินทางไปเยือนเอเชียจนถึงวันที่ 21 ก.ค. โดยแวะทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพื่อหารือวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก แต่ไม่ระบุชัดเจนว่าจะมีการเอ่ยถึงข้อพิพาทการค้าระหว่างโตเกียวกับโซลด้วยหรือไม่