รอยเตอร์ - คณะทูตเกาหลีเหนือประจำองค์การสหประชาชาติระบุวานนี้ (3 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ “ยังมีความมุ่งมั่นที่จะใช้นโยบายก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” ต่อเปียงยาง แม้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะเรียกร้องให้ทั้งสองชาติหันหน้าพูดคุยกันก็ตาม
ถ้อยแถลงของคณะทูตโสมแดงเป็นการตอบโต้ข้อครหาของสหรัฐฯ ที่อ้างว่าเปียงยางฝ่าฝืนมาตรการจำกัดนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่น รวมถึงจดหมายฉบับหนึ่งที่สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ส่งถึงรัฐสมาชิกยูเอ็นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เพื่อเรียกร้องให้ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
“สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ จดหมายร่วมฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นโดยคณะผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นภายใต้คำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศ ในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ กล่าวเชิญผู้นำ คิม ให้มาพบปะเพื่อประชุมซัมมิต” คณะทูตเกาหลีเหนือระบุในถ้อยแถลง
ทรัมป์ พบกับ คิม จองอึน ที่เขตปลอดทหาร (DMZ) ชายแดนสองเกาหลีเมื่อวันอาทิตย์ (30 มิ.ย.) และกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในตำแหน่งคนแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปเหยียบแผ่นดินโสมแดง ทั้งคู่ยังตกลงรื้อฟื้นการเจรจาที่หยุดชะงักเพื่อปูทางสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
คณะทูตเกาหลีเหนือระบุว่า จดหมายที่ถูกส่งถึงรัฐสมาชิกยูเอ็นเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เป็นข้อพิสูจน์ว่า อันที่จริงแล้วสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้นโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ แม้ปากจะพูดว่าต้องการเจรจาก็ตาม
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นมีมติเอกฉันทร์คว่ำบาตรเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี 2006 เพื่อปิดกั้นรายได้ที่เปียงยางจะนำไปอุดหนุนโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยสั่งห้ามเกาหลีเหนือส่งออกถ่านหิน เหล็ก ตะกั่ว สิ่งทอ และอาหารทะเล รวมถึงจำกัดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นด้วย
สหรัฐฯ แจ้งต่อคณะกรรมการคว่ำบาตรของยูเอ็นเมื่อเดือนที่แล้วว่า เกาหลีเหนือฝ่าฝืนคำสั่งยูเอ็นเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2017 ซึ่งห้ามไม่ให้โสมแดงนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเกินกว่า 500,000 บาร์เรลต่อปี
รอยเตอร์พบว่า จดหมายของสหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศสซึ่งอันที่จริงแล้วลงวันที่ 27 มิ.ย. เรียกร้องให้รัฐสมาชิกยูเอ็นปฏิบัติตามคำสั่งคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งกำหนดให้มีการเนรเทศแรงงานโสมแดงกลับประเทศภายในวันที่ 22 ธ.ค. ปี 2019
“ช่างน่าขำที่สหรัฐฯ ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการคว่ำบาตรและกดดันเกาหลีเหนือ และมองว่าการคว่ำบาตรเป็นยาครอบจักรวาลที่แก้ได้ทุกปัญหา” คณะทูตโสมแดงระบุ
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์หลังการพบปะหารือของ คิม และ ทรัมป์ ว่า การเจรจานิวเคลียร์รอบใหม่จะมีขึ้นในราวๆ เดือน ก.ค. “โดยอาจจะเป็นช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า” และคราวนี้เกาหลีเหนือจะส่งนักการทูตของกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมเจรจาด้วย