น้ำมันฟื้นแรง หุ้นสหรัฐฯ-ทองพุ่งหลังตัวเลข ศก.อเมริกาบ่งชี้เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย

เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันพุธ (3 ก.ค.) ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์หนึ่งวันก่อนหน้านี้ หลังพบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯลดลง ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ และทองคำปิดบวก ก่อนหน้าวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (3 ก.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายน ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต๊อกเบนซิน ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (3 ก.ค.) ซึ่งเปิดซื้อขายเพียงครึ่งวัน พุ่งแรงหลังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมากลางๆ ของอเมริกา ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 179.32 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,966.00 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.81 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,995.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 61.14 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,170.23 จุด

ด้วยดัชนีหลักทั้ง 3 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการตลาดที่มีการเปิดซื้อขายเพียงครึ่งวันก่อนหน้าวันหยุดยาว ท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย สืบเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งซ้ำเติมความกังวลที่มีอยู่ก่อนแล้วจากสงครามการค้า

ข้อมูลที่เผยแพร่ในวันพุธ (3 ก.ค.) พบว่าบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ มีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ในเดือนมิถุนายน ขณะเดียวกัน ตัวเลขขาดดุลการค้าของอเมริกาก็แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากมีการกักตุนนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า

ตัวเลขทางเศรษฐกิจดังกล่าวช่วยดันราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ (3 ก.ค.) ปิดระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ท่ามกลางความคาดหมายว่าทั่วโลกอาจจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน โดยราคาทองคำ เพิ่มขึ้น 12.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,420.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์