xs
xsm
sm
md
lg

เซอร์ไพรส์!! ‘ทรัมป์’ เอ่ยปากชวน ‘คิมจองอึน’ พบกันที่เขตปลอดทหารสองเกาหลี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกปากเชื้อเชิญผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือให้มา ‘พบปะทักทาย’ กันชั่วครู่ที่เขตปลอดทหารชายแดนสองเกาหลีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อันเป็นข้อเสนอซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่มีการตระเตรียม

คำเชิญทางทวิตเตอร์ของ ทรัมป์ ในวันนี้ (29 มิ.ย.) ทำให้ผู้สังเกตการณ์ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน และหาก คิม ยอมรับข้อเสนอก็จะกลายเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ของทั้งคู่ ในขณะที่การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ดูเหมือนจะถึงทางตัน

“หลังจากที่ได้ร่วมการประชุมสำคัญๆ หลายครั้ง รวมถึงการหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ผมจะเดินทางออกจากญี่ปุ่นไปยังเกาหลีใต้ (เพื่อพบกับประธานาธิบดี มุน)” ทรัมป์ ทวีตข้อความระหว่างการประชุมซัมมิต G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น

“ระหว่างอยู่ที่นั่น ถ้าประธาน คิม แห่งเกาหลีเหนือได้เห็นโพสต์นี้ ผมยินดีที่จะพบเขาที่เขตปลอดทหารเพื่อจับมือทักทายและเซย์เฮลโหล”

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์นักข่าวในเวลาต่อมาว่า “เพิ่งจะคิดขึ้นได้เมื่อเช้าวันนี้” แต่ถึงกระนั้นข้อเสนอของผู้นำสหรัฐฯ ก็ถือเป็นความเคลื่อนไหวเชิงการทูตที่น่าจับตา หลังจากการประชุมซัมมิตกับ คิม ครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอยเมื่อเดือน ก.พ. ปิดฉากโดยไร้ข้อตกลง

ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์เริ่มเอะใจตั้งแต่ตอนที่ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงอาหารค่ำกลุ่มผู้นำ G20 เมื่อวันศุกร์ (28) โดยสหรัฐฯ ก็ไม่แจ้งเหตุผลที่ชัดเจน

“เราจะได้เห็นกัน ถ้าเขามาที่นั่น เราก็จะได้เจอกันสักประมาณ 2 นาที” ทรัมป์ กล่าว

“ผมก็แค่แสดงความรู้สึกออกไป เพราะไม่ทราบว่าเขาจะอยู่หรือเปล่า เวลานี้เขาอาจไม่ได้อยู่ในเกาหลีเหนือก็เป็นได้”

“เราสองคนเข้ากันได้ และนั่นคือสิ่งที่ดี ไม่ใช่สิ่งที่แย่”

ล่าสุด สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ถ้อยแถลงจาก โช ซอนฮุย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศโสมแดง ซึ่งระบุว่า “เรามองว่านั่นเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ยังไม่ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการ”

“ผมมองว่าหากการประชุมซัมมิตเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ เกิดขึ้นที่เขตปลอดทหารตามที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ เสนอมา ก็จะเป็นโอกาสที่มีความหมายอีกครั้งในการกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำทั้งสอง และยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี”


อันห์ ชาน อิล อดีตผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่กรุงโซล ชี้ว่า “แม้ทวิตเตอร์จะเป็นสื่อที่ถูกแบนสำหรับประชาชนทั่วไปในเกาหลีเหนือ แต่คณะผู้นำ โดยเฉพาะ คิม จองอึน สามารถเข้าถึงทวิตเตอร์ได้”

“พวกเขามีสำนักงานที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวในสื่อเหล่านี้โดยเฉพาะ”

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า ยังไม่มีการยืนยันอะไรทั้งสิ้นในขณะนี้ “แต่เรายังคงจุดยืนสนับสนุนการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือไม่เปลี่ยนแปลง”

หลังจากที่กิจกรรมการทูตแบบเปิดเผยเงียบหายไปนานหลายเดือน ข่าวผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือส่งจดหมายโต้ตอบกันเมื่อไม่กี่วันก่อนดูเหมือนจะช่วยลดทอนตึงเครียดลงไปได้มาก ขณะที่การประชุมซัมมิตครั้งที่ 3 ระหว่าง คิม และ ทรัมป์ ก็เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น