xs
xsm
sm
md
lg

ต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค.! น้ำมันโลกดิ่ง $2 กังวลอุปสงค์อ่อนแอ หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ-ทองขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมในวันพุธ (12 มิ.ย.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติด และความกังวลทางอุปสงค์พลังงานจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ความเคลื่อนไหวของตลาดพลังงานฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ ขณะที่ทองคำขยับขึ้นพอสมควร

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (12 มิ.ย.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 มิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล นับเป็นการเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติด ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นเหล่านักวิเคราะห์ของเอสแอนด์พี โกลบอลแพลตส์ คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเพียงราวๆ 80,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ ยังพบด้วยว่า คลังน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรลในสัปดาห์เดียวกัน ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่น ลดลง 1 ล้านบาร์เรล

ความตึงเครียดทางการค้ายังคงเป็นปัจจัยแห่งความกังวลหลักที่ถูกเชื่อมโยงว่ามันอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันโลกชะลอตัว โดยในวันพุธ (12 มิ.ย.) แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยรู้สึกว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (12 มิ.ย.) ปิดลบในกรอบแคบๆ ตามแรงฉุดกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดำดิ่ง และหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน

ดาวโจนส์ ลดลง 43.68 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,004.83 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.88 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,879.84 จุด แนสแดค ลดลง 29.85 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,792.72 จุด

ดัชนีภาคพลังงานของเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.4% หลังราคาน้ำมันดิบขยับลงหนักถึง 4% ปิดที่ 51.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพฤษภาคม เป็นไปตามโพลสำรวจความคิดเห็นเหล่านักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อปานกลาง เพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ห้นกลุ่มสถาบันการเงินซึ่งจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยระดับสูง ปรับลด 1.2% ขณะที่ทั่วทั้งภาคการเงินนั้น ปรับลด 0.8%

ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (12 มิ.ย.) ปิดบวกแข็งแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้า, ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเหตุประท้วงในฮ่องกง ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,336.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กำลังโหลดความคิดเห็น