เอเอฟพี – สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ “ไม่มีความจำเป็น” ที่จะต้องรื้อฟื้นปฏิบัติการซ้อมรบร่วมในขณะนี้ แม้การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือจะเดินมาถึงทางตันก็ตาม รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.)
วอชิงตันและโซลได้จัดการซ้อมรบร่วมอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้พบกับผู้นำ คิม จองอึน ของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว
ทรัมป์ ได้สั่งระงับปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจากับโสมแดง ก่อนจะค่อยๆ อนุโลมให้มีการฝึกร่วมแบบจำกัด กระทั่งการเจรจากับเกาหลีเหนือได้หยุดชะงักลง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ชานาฮาน เมื่อวันอาทิตย์ (2) ว่า สหรัฐฯ จะกลับมาเปิดซ้อมรบกับเกาหลีใต้ตามปกติหรือไม่ แต่บอสเพนตากอนให้คำตอบว่า "ผมไม่คิดว่ามันคือสิ่งจำเป็น" พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่ากองทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ “มีการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว” หากการเจรจากับเกาหลีเหนือล้มเหลว
“ผมมั่นใจว่าเรามีความพร้อมที่จำเป็นจะต้องมี ทั้งในแง่ของกองกำลังปฏิบัติการและการแสดงจุดยืน” ชานาฮาน กล่าวระหว่างเดินทางไปเยือนกรุงโซล
สหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ในเกาหลีใต้เกือบ 30,000 นาย และการซ้อมรบประจำปีร่วมกับทหารแดนโสมขาวอีกหลายหมื่นนายก็ทำให้ระบอบโสมแดงโกรธแค้นเรื่อยมา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการ “ซ้อมรุกราน” ฝ่ายตน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯ ได้ยืนยันหลังการประชุมซัมมิตหนแรกกับ คิม ที่สิงคโปร์ว่า วอชิงตันจะยุติการซ้อมรบร่วมทางทหารกับเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นการแสดงพฤติกรรม “ยั่วยุ”
ผู้นำทั้งสองยังได้ลงนามข้อตกลงแบบกว้างๆ ว่าจะร่วมกันปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
การประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอยของเวียดนามระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. ที่ผ่านมาปิดฉากลงอย่างกะทันหัน โดยที่สหรัฐฯ ไม่บรรลุเป้าหมายที่จะทำให้เปียงยางยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์