เอเอฟพี – การโจมตีบริษัท หัวเว่ย ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีในจีนของสหรัฐฯ ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจการบินของบริษัทนี้ ถึงแม้ว่าหลายๆ ประเทศจะดำเนินการปิดกั้นบริการอุปกรณ์เคลื่อนที่ของหัวเว่ยก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท กล่าววันนี้ (3)
หัวเว่ยติดอยู่ในสงครามการค้าดุเดือดระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งขึ้นบัญชีดำผู้ผลิตจีนรายนี้ เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม อีมาน หลิว ประธานหน่วยธุรกิจคมนาคมทั่วโลกของหัวเว่ย กล่าวว่า ธุรกิจการบินของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ
หัวเว่ยจัดสรรวิธีแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีข้อมูลและการติดต่อสื่อสารแก่สนามบินกว่า 50 แห่งและสายการบิน 15 แห่งทั่วโลก รวมถึงสนามบินดูไบและบริษัทชางกีแอร์พอร์ทกรุ๊ปในสิงคโปร์
บริการของหัวเว่ยรวมไปถึงการระบบกล้องวงจรปิดและระบบคลาวด์ของสนามบิน รวมทั้งบริการไวไฟและเซิฟเวอร์เก็บข้อมูล
“จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีผลกระทบ” หลิว บอกเอเอฟพีนอกรอบการประชุมของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) ในกรุงโซล
ลูกค้าหัวเว่ยที่งานประชุมรับปากว่าจะยังคงร่วมมือกับบริษัทนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีข้อกล่าวหาจากวอชิงตันก็ตาม หลิว กล่าว
“สำหรับส่วนที่เหลือทั้งหมดของโลก เราทำธุรกิจกับพวกเขามานานกว่า 10 ปีแล้ว” หลิว กล่าว
“เพราะว่าความเชื่อใจนี้ไม่ใช่ความเชื่อใจวันเดียว มันเป็นความเชื่อใจระยะยาวสำหรับ 15 ปีที่ผ่านมา และ 30 ปีในบางกรณี”
หัวเว่ยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์โทรคมนาคมของโลกและหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำเคียงข้างซัมซุงและแอปเปิล
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทนี้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ความเคลื่อนไหวที่ยับยั้งการเข้าถึงส่วนประกอบที่ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งจำเป็นสำหรับอุปกรณ์ของหัวเว่ย คำสั่งชะลอผล 90 วันออกมาหลังจากนั้น
หลายประเทศก็ห้ามไม่ให้หัวเว่ยทำงานเกี่ยวกับเครือข่ายมือถือ และหลายบริษัทตัดสายสัมพันธ์กับบริษัทนี้หลังการแบนของสหรัฐฯ โดยอ้างความจำเป็นทางกฎหมาย
“เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ในตอนนี้ เนื่องจากเราเป็นนักธุรกิจ แต่เราหวังว่า สหรัฐฯ จะเปลี่ยนทิศทางของพวกเขา” หลิว กล่าว
หากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าในทิศทางนี้ต่อไป หลิว กล่าวว่า มันจะ “บีบให้พวกเราต้องใช้แผนบี” หมายถึงการลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการผลิตชิปของตนเอง
วอชิงตันแสดงความกังวลมานานว่า หัวเว่ยอาจถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีนและเป็นภัยความมั่นคงระดับโลก ข้อกล่าวหาทั้งหัวเว่ยและปักกิ่งปฏิเสธอย่างหนักแน่น
เมื่อวานนี้ (2) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีน กล่าวว่า หัวเว่ยไม่ใช่บริษัททางทหาร ถึงแม้ว่า เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งจะเคยรับราชการในกองทัพปลดแอกประชาชนก็ตาม